TEAMG เด้ง 8% หลังรายได้ Q3 นิวไฮแตะ 636 ล้านบาท พ่วงตุนแบ็กล็อก 6 พันลบ.

TEAMG เด้ง 8% หลังโชว์ผลงานไตรมาส 3/68 ทำรายได้นิวไฮแตะ 636.41 ล้านบาท เติบโต 47% และมีกำไร 47.24 ล้านบาท พร้อม Backlog แตะ 6,000 ล้านบาท รับแรงหนุนจากงานที่ปรึกษาโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ด้านคมนาคม การบริหารจัดการน้ำ พร้อมขยายสู่ธุรกิจ EPC


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 พ.ย. 68) ราคาหุ้น บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG ณ เวลา 10:08 น. อยู่ที่ระดับ 3.22 บาท บวก 0.22 บาท หรือ 7.33% สูงสุดที่ระดับ 3.28 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.08 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 14.42 ล้านบาท

นายชวลิต จันทรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEAMG เปิดเผยว่า ผลประกอบการบริษัท ไตรมาส 3/2568 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 636.41 ล้านบาท เติบโต 47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นรายได้ที่สูงเป็นประวัติการณ์ มีกำไรสุทธิ 47.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยในปี 2568 บริษัทได้รับโอกาสดำเนินโครงการใหม่ๆที่มีมูลค่าสูงและมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของประเทศ เช่น ได้รับงานสำรวจและออกแบบโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 งานสำรวจออกแบบโครงการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ระยะที่ 1

นอกจากนี้ยังมีโครงการศึกษาระบบรถไฟฟ้าชานเมืองศาลายา-นครปฐม โครงการควบคุมการก่อสร้างระบบป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งบางขุนเทียน และโครงการควบคุมงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นใต้ดิน ถนนรามคำแหง ขณะเดียวกัน บริษัทยังเดินหน้าขยายธุรกิจเกี่ยวเนื่องในงานบริการด้าน EPC ตามแผนการเติบโตของบริษัท โดยต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านการศึกษาและออกแบบงานด้านวิศวกรรมไปยังงานในรูปแบบ EPC โดยโครงการด้าน EPC ที่บริษัทได้รับในไตรมาสนี้ครอบคลุมงานสำคัญด้านต่างๆ เช่น ระบบสาธารณูปโภค งานก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย และระบบโครงสร้างพื้นฐานเฉพาะด้าน เป็นต้น

สำหรับในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,672.42 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 31% และมีกำไรสุทธิ 141.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 51% โดยบริษัท ยังคงสร้างผลงานอย่างโดดเด่นทั้งรายได้และกำไร เติบโตสูงสุดในรอบหลายปี จากแรงหนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศและการขยายธุรกิจ EPC และเทคโนโลยีที่สร้างมูลค่าระยะยาว หนุนฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่งและตอกย้ำการเติบโตอย่างยั่งยืน

สำหรับงานในมือ (Backlog) ของบริษัท ณ วันสิ้นงวด 9 เดือน มีมูลค่า 5,968 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นจากธุรกิจที่ปรึกษา 3,665 ล้านบาท และจากธุรกิจเกี่ยวเนื่องซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 2,303 ล้านบาท ตามแผนการดำเนินงานธุรกิจที่บริษัทวางไว้

“นอกจากผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่องแล้ว บริษัทยังได้รับการประเมิน CGR ระดับ “ดีเลิศ” หรือ 5 ดาว จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 สะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และคำนึงถึงผู้มีส่วนเสียทุกฝ่าย” นายชวลิตกล่าว

Back to top button