‘ภาษีทรัมป์’ ทำเศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัว.!

“รัฐบาลญี่ปุ่น” เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 3/68 หดตัวเกือบ 2% อันเป็นผลมาจากการส่งออกลดลง เนื่องจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ


“รัฐบาลญี่ปุ่น” เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 3/68 หดตัวเกือบ 2% อันเป็นผลมาจากการส่งออกลดลง เนื่องจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้เศรษฐกิจหดตัวครั้งแรกรอบ 6 ไตรมาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกจากบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากการส่งออกพุ่งสูงขึ้น ก่อนมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้..!!

บรรดานักเศรษฐศาสตร์หลายคน ประเมินว่า เนื่องจากการหดตัวโดยรวมไม่ได้รุนแรงอย่างที่คาดการณ์ไว้ จึงน่าจะเป็นเพียงการชะลอตัวชั่วคราวมากกว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะเศรษฐกิจถดถอย

เริ่มจาก Kazutaka Maeda นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยเมจิยาสึดะ ระบุว่า การหดตัวส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นครั้งเดียว เช่นการลงทุนในที่อยู่อาศัย ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ ส่วนการส่งออกตอบสนองเช่นกัน โดยรวมแล้วเศรษฐกิจขาดแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง แต่แนวโน้มบ่งชี้การฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปช่วง 1-2 ปีข้างหน้า

โดยทั่วไปแล้วนักเศรษฐศาสตร์หลายคน มองว่า ตัวเลข GDP ไตรมาสนี้ มีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อแนวคิดของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย เมื่อเทียบกับปัจจัยทั้งหลายอื่น ๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ ที่ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ได้ให้น้ำหนักความสำคัญกับข้อมูลชุดนี้มากกว่า

Takuji Aida หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ญี่ปุ่นของเครดิตอะกริโคล ธนาคารขนาดใหญ่ของฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในคณะกรรมการหลักของทาคาอิจิ ที่รับผิดชอบในการวางยุทธศาสตร์การเติบโตของประเทศ รายงานว่า “การหดตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นถือเป็นการนำทางที่ผิดพลาดสำหรับ BOJ ในการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย”

โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นหดตัวที่ระดับ 1.8% ช่วงไตรมาส 3/68 (กรกฎาคม-กันยายน) เทียบกับการเติบโตของ GDP ในไตรมาสก่อนหน้าที่ระดับ 2.3% และเทียบกับการคาดการณ์เฉลี่ยของนักเศรษฐศาสตร์ ในโพลสำรวจของรอยเตอร์ ที่คาดว่าจะหดตัว 2.5% ตัวเลข GDP ดังกล่าวยังหมายถึงการหดตัวรายไตรมาส 0.4%

การส่งออกถือเป็นปัจจัยหลักมาจากผลกระทบจากการขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงมากขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายเห็นปริมาณการส่งออกลดลง ทำให้การส่งออกที่เคยสูงขึ้นมากก่อนการขึ้นภาษีศุลกากร พลิกกลับมาเป็นปรับลดลง แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิตรถยนต์จะแบกรับภาษีศุลกากรไว้เองด้วยการลดราคาลงก็ตาม..

ตัวเลขการส่งออกสุทธิหรือยอดส่งออกหักลบด้วยยอดนำเข้า มีผลให้การเติบโตลดลง 0.2% เทียบกับที่เคยเติบโตเป็นบวก 0.2% ช่วงไตรมาส 2/68

สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นมีการลงนามข้อตกลงอย่างเป็นทางการช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าพื้นฐานของสินค้าญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดไว้ 15% เทียบกับอัตราภาษีเบื้องต้นที่ 27.5% สำหรับรถยนต์และ 25% สำหรับสินค้าอื่น ๆ 

การลงทุนด้านที่อยู่อาศัย ส่งผลกระทบต่อการเติบโตเช่นกัน เนื่องจากกฎระเบียบด้านประสิทธิภาพพลังงานที่เข้มงวดมากขึ้น ที่ประกาศใช้ในเดือนเมษายน ทำให้การทำสัญญาผูกพันต่าง ๆ ชะลอตัวลง

ที่สำคัญการบริโภคภาคเอกชน ที่คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ญี่ปุ่น เติบโตเพียงแค่ 0.1% สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยชะลอลงต่ำกว่าไตรมาส 2/68 ที่อยู่ระดับ 0.4% บ่งชี้ว่าต้นทุนอาหารที่สูง ทำให้เกิดความลังเลเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น..!!

Back to top button