“อุตุ” ประกาศ “พายุโคโตะ” ไม่กระทบไทย หลังอ่อนกำลัง-สลายตัวขึ้นฝั่งเวียดนาม

กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศยุติเตือน “พายุโคโตะ” เหตุอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชันกลางทะเลจีนใต้ ไม่ส่งผลกระทบไทยโดยตรง แต่ภาคเหนือ–อีสานยังหนาวจัด ยอดดอยอุณหภูมิต่ำสุด 4–10 องศาฯ


กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับสุดท้ายเกี่ยวกับสถานการณ์พายุและสภาพอากาศของประเทศไทย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2568 ตามประกาศฉบับที่ 11 เลขที่ 373/2568 เรื่อง “พายุโคโตะ และอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน” โดยยืนยันว่าเหตุการณ์นี้จะไม่มีประกาศเพิ่มเติม เนื่องจากสถานการณ์พายุได้คลี่คลายและไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย

พายุโซนร้อนโคโตะ หรือ KOTO ที่ก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยมีศูนย์กลางห่างจากเมืองบินห์ดินห์ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 300 กิโลเมตร ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังคงเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกอย่างช้า ๆ คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณชายฝั่งเวียดนามภายในคืนนี้ สาเหตุสำคัญมาจากมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่แผ่ปกคลุม ทำให้พายุสลายตัวก่อนเคลื่อนเข้าไทย

แม้พายุจะไม่ส่งผลกระทบโดยตรง แต่มวลอากาศเย็นที่แผ่เสริมกำลังยังทำให้ประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนมีอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้าพร้อมลมแรง อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นเล็กน้อยและมีหมอกบางพื้นที่ แต่สภาพโดยรวมยังคงหนาวจัด โดยเฉพาะในพื้นที่สูงและแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา

สภาพอากาศบนยอดดอยและยอดภูยังหนาวจัดจนเกิดน้ำค้างแข็งในบางพื้นที่ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ยอดดอยมีอุณหภูมิต่ำสุด 4–10 องศาเซลเซียส ขณะที่ยอดภูมีอุณหภูมิต่ำสุด 8–14 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ พื้นที่บางแห่งเคยมีรายงานอุณหภูมิลดต่ำถึง 1–8 องศาเซลเซียส สร้างสีสันให้กับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาว

กรมอุตุนิยมวิทยาขอให้ประชาชนในประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงใช้ความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง พร้อมแนะนำให้ติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศจากเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาหรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง

Back to top button