
อยู่เฉยไม่ได้หรอก!
ในจังหวะที่ตลาดหุ้นไทยเด้งขึ้นอย่างร้อนแรง ก็ทำให้อีฉันนั่งไม่ติดเหมือนกับคนอื่น ๆ เพราะมันเป็นจังหวะที่ต้องสอดสายตามองหาหุ้นที่มีโอกาสพุ่งแรงในอนาคต
ในจังหวะที่ตลาดหุ้นไทยเด้งขึ้นอย่างร้อนแรง ก็ทำให้อีฉันนั่งไม่ติดเหมือนกับคนอื่น ๆ เพราะมันเป็นจังหวะที่ต้องสอดสายตามองหาหุ้นที่มีโอกาสพุ่งแรงในอนาคต ขณะเดียวกันก็ได้เห็นหุ้นพุ่งแรงในแต่ละวัน ล้วนมีประเด็นเชิงบวกที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรในบรรทัดสุดท้าย “โมนิก้า” ถึงต้องออกมาย้ำเป็นประจำว่า นี่เป็นจังหวะของการโหนกระแสแบบไม่ต้องสงสัย เพราะราคาหุ้นในกระดานต่ำกว่าราคาเหมาะสมเยอะนะซี
งานนี้ใครจะว่าอย่างไรก็ช่างปะไร! เพราะในบางจังหวะที่ต้องลุย ก็ต้องลุยไปให้สุดซอย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องถอยให้เป็นเหมือนกัน ผนวกกับการเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นไทยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาชี้ว่า กรอบการขยับตัวอยู่ที่บริเวณ 1,250-1,300 จุดเป็นส่วนใหญ่ อีฉันถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 1,277.58 จุด บวกไป 1.01 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.25 หมื่นล้านบาท ยังมีแก๊ปให้หุ้นไปต่อไงล่ะคะ
ที่สำคัญจะเห็นว่า ในเดือน ธ.ค. มีสตอรี่ดี ๆ ที่จะช่วยดันดัชนีเยอะมาก ไล่เรียงตั้งแต่เรื่องลดดอกเบี้ย ถัดจากนั้นเป็นเรื่องต่างชาติหวนซื้อหุ้นไทย และตามมาด้วยการเก็บหุ้นปันผล หรือแม้กระทั่งภาคธุรกิจต่าง ๆ เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ล้วนเป็นประเด็นที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยเดินหน้าขึ้นอีกครั้ง อีฉันถึงเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยไม่ควรลงด้วยประการทั้งปวง เพราะผ่านเรื่องหนัก ๆ ที่กระทบตลาดหุ้นมาหมดแล้วค่ะ
โดยหุ้นใหญ่อีกหนึ่งตัวที่ “โมนิก้า” ชอบเม้าท์ถึงเป็นประจำในช่วงสิ้นปีก็คือ PTTEP เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาให้เงินปันผลอยู่ที่ระดับ 6.19% และ 7.98% ซึ่งเป็นการเทียบกับราคาหุ้นตอนสิ้นปีที่ระดับ 149.50 บาท และ 119 บาทตามลำดับ ขณะเดียวกันเมื่อดูราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ 107 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 0.93% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 860 ล้านบาท โดยคาดว่าปีนี้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจะอยู่ที่ 8% น่าสนใจไหมล่ะคะ
เช่นเดียวกับในรายของยานแม่ SCB มีการจ่ายปันผลในงวดปี 66 สองครั้งด้วยกัน โดยครั้งแรกจ่ายจากกำไรปกติ 7.84 บาท และจ่ายจากกำไรสะสมอีก 2.50 บาท ส่วนในงวดปี 67 จ่ายจากกำไรปกติ 8.44 บาท และจ่ายจากกำไรสะสมอีก 2 บาท ส่วนงวดปี 68 มีการจ่ายปันผลจากกำไรสะสมไปแล้ว 2 บาท โดยกำไรต่อหุ้นงวด 9 เดือนอยู่ที่ 11 บาท พวกคุณ ๆ คิดว่า ยานแม่จะแจกปันผลเท่าไหร่? และการยืนปิดที่ 131.50 บาท คุ้มที่จะลงทุนอะป่าว?
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น CPF ขึ้นมาทันที เพราะเป็นหุ้นที่ร่วงเยอะเหลือเกิน ผนวกกับนักวิเคราะห์ยังคงแนะนำซื้อ จึงเป็นช็อตที่น่าลงทุนจริง ๆ ผนวกกับเที่ยวก่อนหุ้นเด้งขึ้นตรงบริเวณ 20 บาท อีฉันเลยมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 20.80 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 0.97% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 209 ล้านบาท มีความเสี่ยงในการซื้อหุ้นต่ำจริง ๆ (พีอี 5 เท่า) และอย่าลืมว่า ธุรกิจอาหารโตขึ้นเรื่อย ๆ นะตัวเอง
ส่วนหุ้นฮอตฮิตอย่างเจ้าจำปี THAI ที่หลายคนถามถึงว่าจะเป็นอย่างไร? อีฉันขอตอบว่า ให้กลับไปดูราคาหุ้นในกระดานแล้วกัน! เพราะเป็นภาพสะท้อนที่ชี้ให้เห็นความกังวลที่มีต่อผลงานในอนาคต จึงไม่ต้องแปลกใจที่วันนี้หุ้นยืนปิดได้แค่ระดับ 8.95 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 444 ล้านบาท เพราะตอนนี้ยังไม่มีอะไรเอาไปอวดชาวบ้านได้เลยพับผ่าซิ!
เหมือนกับในรายของ FSX ซึ่งเคยเป็นหุ้นที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากมายในอดีต แต่ในปัจจุบันกลับมีคนตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง CAI ผนวกกับผู้บริหารบางคนก็ติดร่างแหเรื่องคนในขบวนการสแกมเมอร์ จึงทำให้สภาพของบริษัทดูไม่ค่อยดีเอาเสียเลย แถมผลการดำเนินงานก็ขาดทุนเรื้อรัง อีฉันจึงไม่มีความจำเป็นต้องออกความคิดเห็นอะไรทั้งนั้น!..เพราะเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองแหละ
โมนิก้าและทีมงาน