พาราสาวะถี

เคาะมาตรการ พร้อมเร่งกระบวนการในการเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้โดยเร็ว เป็นภาคบังคับในฐานะพื้นที่ความหวัง อนุทิน ชาญวีรกูล ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจาก ประเคนความช่วยเหลือแบบจุใจ


เคาะมาตรการ พร้อมเร่งกระบวนการในการเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้โดยเร็ว เป็นภาคบังคับในฐานะพื้นที่ความหวัง อนุทิน ชาญวีรกูล ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจาก ประเคนความช่วยเหลือแบบจุใจ และต้องทำทุกอย่างให้เป็นที่พอใจ เพื่อกลบลบความผิดพลาดจากการบริหารสถานการณ์วิกฤตที่ผ่านไป ความนิยมลดหรือไม่ สัมผัสได้ผ่านนิด้าโพลที่คนใต้หันกลับมาปันใจให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ แซงหน้าเสี่ยหนูพร้อมพรรคสีน้ำเงินไปแล้ว

จริงอยู่เพิ่งผ่านพ้นเหตุการณ์ที่ทำให้พี่น้องปักษ์ใต้ไม่พอใจรัฐบาลอย่างรุนแรง จึงทำให้ผลสำรวจความคิดเห็นออกมาแบบนี้ ต้องไปถามกันอีกรอบหลังจากผ่านช่วงฟื้นฟู เยียวยาไปแล้ว คนส่วนใหญ่ยังแน่วแน่กับความต้องการให้พรรคเก่าแก่ได้ฟื้นคืนชีพในพื้นที่ด้ามขวานจริงหรือไม่ อย่างน้อยก็เป็นไปตามคาดจากสถานการณ์ที่สะท้อนความเป็นมืออาชีพในการบริหารของรัฐบาล 4 เดือน โดยเฉพาะพรรคสีน้ำเงินส่งผลให้งานง่ายในการเลือกตั้ง จากที่ทำท่าว่าจะแบเบอร์นอนมากันแทบทั้งภาค กลายเป็นหืดขึ้นคอต้องไปวัดกันเหนื่อยในทุกเขต

อย่างไรก็ตาม พิพัฒน์ รัชกิจประการ แม่ทัพภาคใต้ของภูมิใจไทย ยังมั่นใจในฐานเสียงที่แน่นปึ้กจากการวางขุมกำลัง พร้อมการดูแลแบบจุก ๆ ที่ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง จึงไม่หวั่นไหวต่อผลโพลที่ออกมา แม้ว่าจะถูกตีซ้ำด้วยความเป็นมือสมัครเล่นในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม แต่เชื่อว่ามาตรการที่รัฐบาลได้เคาะไป ประกอบกับการทำพื้นที่มาอย่างยาวนาน ย่อมรู้ดีว่าอะไรที่จะทำให้คนในพื้นที่ประทับใจ และเปลี่ยนใจได้ คู่แข่งต่างพรรคไม่ใช่อุปสรรคสำหรับพรรคสีน้ำเงิน ห่วงแต่พวกเดียวกันมากกว่าที่เมื่อถึงเวลาจะงัดวิชามารมาเล่นงานกันเอง

ในแง่ของการเตรียมความพร้อมเพื่อการเลือกตั้ง ต้องยอมรับว่าเสี่ยหนูและชาวคณะวางขุมกำลังไว้เรียบร้อย เห็นการขยับในกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่โยกย้ายกันเป็นว่าเล่น ล่าสุดก็แต่งตั้งระดับรองผู้ว่าขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอีก 20 ตำแหน่ง ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อน ทั้งหมดเพื่อเป้าหมายทางการเมืองทั้งสิ้น ฐานะที่อยู่มาก่อนจะไปพักร้อนเป็นฝ่ายค้านช่วงสั้น ๆ ย่อมรู้ดีว่าใครคือพลพรรคสีน้ำเงิน จึงสามารถที่จะเคาะกันได้แบบรวดเร็ว ทันใจ ทันใช้งาน

การวางตัวกลไกอำนาจเพื่อสนองตอบเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่ปัญหา ยิ่งได้ยาดีมาสนับสนุนส่งผลไปถึงข้าราชการทุกหน่วย ทุกสังกัดไม่หือไม่อือ มิหนำซ้ำ ยังรวมไปถึง องค์กรทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ และตีความต่าง ๆ ก็พร้อมที่จะอุ้มชูตามบัญชาของผู้มีอำนาจที่เหนือกว่า หรือส่วนใหญ่แทบจะเรียกได้ว่าผู้มีพระคุณต่อกันเสียด้วยซ้ำ ปัญหาที่อาจจะมีเล็กน้อยสำหรับพรรคสีน้ำเงินคงเป็นเรื่องการวางตัวผู้สมัครในบางพื้นที่มากกว่า

ที่เห็น ๆ น่าจะเป็นจังหวัดชลบุรี หลังจากการมาของบ้านใหญ่อดีตเจ้าพ่อภาคตะวันออกที่นำโดย “เสี่ยแป๊ะ”สนธยา คุณปลื้ม คนที่ไม่ปลื้มคือ ทีมบ้านใหม่ของ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น ที่ได้นำพลพรรคจากรวมไทยสร้างชาติเปลี่ยนสีเสื้อมาเข้าคอกพรรคสีน้ำเงิน หนนี้เจ้าตัวประกาศขอลงสมัคร สส.แบบแบ่งเขต และชี้นิ้วไปทันทีที่เขต 1 ซึ่งตัวเองเคยเป็นอดีต สส.มาสองสมัยคือเมื่อปี 2554 และ 2562 พร้อมเชื่อว่าลูกชายคนโตของอดีตกำนันคนดังแห่งเมืองชลจะไม่มีปัญหา ด้วยเหตุผลที่ว่าอยู่พรรคเดียวกัน และ ใช้ความเหมาะสมเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจ

เมื่อเทียบสถานะปัจจุบันความมีหัวโขนเป็นรัฐมนตรี ย่อมมีพลัง อำนาจและบารมีมากกว่า แต่อย่าลืมว่า ด้วยศักดิ์ศรีที่ค้ำคอมาก่อน ประกอบกับทางฝ่ายแกนนำพรรคสีน้ำเงินเป็นผู้ส่งเทียบเชิญให้มา เพื่อหวังจะกวาด สส.ชลบุรีให้ได้มากที่สุด ถึงขนาดยกจังหวัดได้ยิ่งดี นั่นย่อมทำให้เห็นถึงฐานะที่จะได้รับความเกรงใจจากผู้นำพรรคอยู่ไม่น้อย เบื้องต้นคงต้องปล่อยให้ไปตกลงกันเองให้ได้ก่อน ถ้าเขตไหนมีปัญหา ต่างฝ่ายต่างมีคนที่เห็นว่าเหมาะสม คงหนีไม่พ้นที่แกนนำจำเป็นต้องฟันธงเอง

เพราะการคุยกันของเสี่ยแป๊ะกับเสี่ยเฮ้งที่พรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด โดยมี ชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่เปรียบเสมือนขาใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยมาร่วมวงด้วย ได้ย้ำต่อหน้านักข่าวว่า เมื่อคุยกันแล้วก็ต้องจบทุกอย่าง เป็นการพูดกันตามประสานักเลง แต่โจทย์ยากก็คือ 10 เขตเลือกตั้งของชลบุรีจะแบ่งกันฝ่ายละครึ่งได้หรือไม่ ลำพังแค่เขต 1 ที่สุชาติยันว่าตัวเองเหมาะสม ทางบ้านใหญ่ไม่ยอม เพราะถือว่าตัวเองเป็นเจ้าของฐานเสียงเดิม

ขณะเดียวกันเสี่ยแป๊ะด้วยความเป็นพี่ใหญ่แห่งตระกูลคุณปลื้ม ถือว่ามีความเด็ดขาดต่อการตัดสินใจ และแน่วแน่ต่อท่าทีที่แสดงออกต่อฝ่ายที่แยกตัวออกไปเป็นคู่แข่ง เห็นได้จากหลังการคุยกันในวันดังกล่าว นักข่าวขอให้ทั้งคู่จับมือกันได้หรือไม่ เสี่ยเฮ้งปรี่เข้ามายกมือไหว้พร้อมจะจับมือ แต่สนธยาเพียงแต่รับไหว้ และตบไหล่สุชาติเท่านั้น ไม่ได้จับมือด้วยแต่อย่างใด นั่นทำให้สามารถทำนายไว้ล่วงหน้าว่า การเจรจาระหว่างบ้านใหญ่กับบ้านใหม่ คงจะไม่มีทางได้ข้อยุติระหว่างกัน สุดท้าย กุนซือใหญ่ของพรรคอาจต้องออกโรงมาผ่าทางตันด้วยตัวเอง

ส่วนพรรคที่น่าจะใจชื้นขึ้นมาบ้างหลังจากผลโพลของนิด้าล่าสุด คงเป็นประชาธิปัตย์และอภิสิทธิ์  เนื่องจากมีแนวโน้มว่าคนภาคใต้จะหันกลับมาใช้บริการอีกครั้งหนึ่ง แต่ต้องไม่ลืมว่าคู่แข่งสำคัญไม่ได้มีแค่พรรคสีน้ำเงิน พรรคสีส้มก็ยังคงน่ากลัว ขณะที่พรรคจ้องเสียบหรือความจริงคือลุยทำพื้นที่ต่อเนื่องเช่นกันอย่างกล้าธรรมก็ประมาทไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สนามเลือกตั้งภาคใต้หนนี้ถ้าเป็นภาษามวยก็ต้องบอกว่าไม่มีขาดลอย ทุกพื้นที่เป็นไปในลักษณะเฮียเส็งชี้แดงเฮียแสงชี้น้ำเงินทั้งนั้น

อรชุน

Back to top button