GLOBAL ลุ้นแรงซื้อซ่อมบ้านภาคใต้หนุนกำไร

คุณค่าบริษัท

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ที่รุนแรงและส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ซึ่งมีสาขาตั้งอยู่ในอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ต้องปิดให้บริการชั่วคราว และมีสินค้าได้รับความเสียหาย แต่ความเสียหายดังกล่าวอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของบริษัทประกันภัยที่บริษัทฯ ได้จัดทำไว้แล้ว

อีกด้านหนึ่ง GLOBAL ในฐานะเป็นหุ้นกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง จะได้อานิสงส์จากความต้องการซื้อสินค้าและวัสดุก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้ำท่วมโดยตรง ซึ่งน่าจะช่วยหนุนผลประกอบการในไตรมาส 4/2568 ต่อเนื่องไปไตรมาสแรกปี 2569 ให้เติบโต นอกจากนี้ GLOBAL ยังเป็นหนึ่งในหุ้นที่ถูกเก็งจะเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ในงวดเดือน ม.ค.-มิ.ย. 2569 อีกด้วย

ขณะที่งบในไตรมาส 3/2568 GLOBAL รายงานกำไรสุทธิ 388.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 360.79 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนของปี 2568 จำนวน 1,524.96 ล้านบาท ลดลง 17.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,848.52 ล้านบาท

โดยในไตรมาส 3/2568 มีรายได้จากการขาย 7,416.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.26% ส่วนงวด 9 เดือนของปี 2568 อยู่ที่ 23,972.66 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2567 จำนวน 691.97 ล้านบาท หรือ 2.81% เป็นผลมาจากยอดขายของสาขาเดิมที่ปรับตัวลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น

ขณะที่รายได้อื่นในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 181.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.46% ส่วนงวด 9 เดือนของปี 2568 อยู่ที่ 598.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.39% เนื่องจากรายได้ค่าบริการที่ได้รับจากลูกค้าและรายได้ส่งเสริมการขายที่ได้รับจากคู่ค้าเพิ่มขึ้น

โดยในไตรมาส 3/2568 มีกำไรขั้นต้น 1,964.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.72% เนื่องจากการปรับนโยบายบริการจัดการสินค้า House Brand และงวด 9 เดือนของปี 2568 กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 6,150.28 ล้านบาท ลดลง 3.43%

ด้านบล.บัวหลวง ระบุว่า โดยปกติแล้วไตรมาส 4 จะเป็นช่วงเริ่มต้นของไฮซีซั่นของ GLOBAL ตามด้วยอุปสงค์สูงสุดในไตรมาส 1/2569 คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน หนุนจากยอดขายสาขาเดิมที่ปรับตัวดีขึ้น และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่คงที่จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะการเติมเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมาตรการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคในระดับรากหญ้าในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.

อย่างไรก็ตาม คาดกำไรหลักจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการบริโภคในต่างจังหวัดยังคงอ่อนแอ แต่อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนุนจากส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์ตนเองที่เพิ่มขึ้น และแผนการเปิดสาขาใหม่ 3 แห่งในไตรมาส 4/2568

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น GLOBAL ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 17.59 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 15.71 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 1.44 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.20 เท่า  โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่  7.90 บาท จากราคาต่ำสุด 5.65 บาท และราคาสูงสุด 9.50 บาท