“เฟสออฟ” ก็ไม่รอด! ตม.ไทยรวบนักปั่นหุ้นญี่ปุ่นคาศูนย์ราชการฯ

"เฟสออฟ" ก็ไม่รอด! ตม.ไทยรวบนักปั่นหุ้นญี่ปุ่นคาศูนย์ราชการฯ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ก.ค.) เมื่อเวลา10.00 น.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.ตม. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สตม. ร่วมแถลงจับกุม นายยาซูโอะ ทะซึบากิ (Yasuo Tsubaki) อายุ 62 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ตามหมายจับศาลแขวงไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ในคดีความผิดการค้าหลักทรัพย์ มูลค่าความเสียหายกว่า 12,000 ล้านเยน หรือ 4,000 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ขณะไปต่อวีซ่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 ก.ค.(ที่ผ่านมา)

พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า ได้รับการประสานจากทางการญี่ปุ่นขอให้ติดตามตัวนายยาซูโอะ ทะซึบากิ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาล ประเทศญี่ปุ่น ในคดีความผิดการค้าหลักทรัพย์ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2544-2548 ขณะที่นายยาซูโอะ ทะซึบากิเป็นทนายความของบริษัท OHT ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องจักรชื่อดังในญี่ปุ่น โดย นายยาซูโอะ ทะซึบากิ ได้ร่วมกับพวกอีก2 คนเปิดบัญชีกว่า 526 บัญชีผ่านบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ กว่า 41 แห่ง เพื่อมากวาดซื้อหุ้นในบริษัท OHT ก่อนจะปั่นราคาหุ้นจากหุ้นละ 200,000 เยน ขึ้นเป็นราคาหุ้นละ 1.2-1.5 ล้านเยน จากนั้นจึงขายทิ้งทั้งหมด

ส่งผลให้มีมูลค่าความเสียหายกว่า 12,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทย 4,000 ล้านบาท โดยสื่อมวลชนญี่ปุ่นได้ลงข่าวว่าการปั่นหุ้นดังกล่าวนั้นถือเป็นความเสียหายมากที่สุดในประวัติกาลตลาดหุ้นญี่ปุ่น ก่อนที่ นายยาซูโอะ ทะซึบากิ จะหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยพร้อมศัลยกรรมใบหน้า (Face off) จนไม่มีใครจำได้ จากนั้นปี 2550 ศาลแขวงไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกหมายจับนายยาซูโอะ ทะซึบากิและพวกอีก 2 คน ก่อนพวกทั้ง 2 คนจะถูกจับกุมตัวดำเนินคดีในประเทศญี่ปุ่น ขณะที่นายยาซูโอะ ทะซึบากิ ยังคงหลบหนีในประเทศไทย โดยเช่าคอนโดหรูย่านสุขุมวิท ในราคาเดือนละ 100,000 บาท ก่อนจะมาเช่าบ้านพักย่านพระราม 2 ในราคาเดือนละ 30,000 บาท รวมระยะเวลาหลบหนีในไทยกว่า 11 ปี โดยไม่ได้ประกอบอาชีพใดเลย กระทั่งเมื่อวันที่ 27 ก.ค.(ที่ผ่านมา) ตำรวจตม.ทราบว่านายยาซูโอะ ทะซึบากิ มาต่อวีซ่า ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ จึงนำกำลังเข้าจับกุม

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากการสอบถามเบื้องต้น นายยาซูโอะ ทะซึบากิ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างอื่น ขณะที่ตรวจสอบพบว่าขณะอยู่ที่ญี่ปุ่นนายยาซูโอะ ทะซึบากิ เคยมีภรรยาเป็นนักข่าวสถานีโทรทัศน์ชื่อดังของญี่ปุ่นก่อนจะหลบหนีมาไทย ซึ่งพบว่ามีคนไทยเป็นผู้เปิดหมายเลขโทรศัพท์ และเปิดบัญชีธนาคารให้ และคาดว่าน่าจะมีภรรยาเป็นคนไทยด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงในส่วนยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีเช่นกัน

อย่างไรก็ตามแม้ทางนายยาซูโอะ ทะซึบากิ จะยังไม่ให้ข้อมูลอะไรมาก แต่ทางเอกสารและหลักฐานต่างๆยืนยันตัวบุคคลนายยาซูโอะ ทะซึบากิ ขณะเดียวกันทางการญี่ปุ่นก็ได้นำดีเอ็นเอของนายยาซูโอะ ทะซึบากิ ไปพิสูจน์ทราบเช่นกัน

เบื้องต้นตำรวจได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ตามพ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นภัยสังคม ก่อนจะผลักดันกลับประเทศญี่ปุ่นต่อไป

Back to top button