บอร์ด VTE ไฟเขียววางมัดจำโครงการโรงไฟฟ้ากำลังการผลิต 15MW ในญี่ปุ่น

VTE เผยบอร์ดไฟเขียวเพิ่มวงเงินตัวแลกเงินเป็น 5 พันลบ. พร้อมอนุมัติวางเงินมัดจำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิต 15MW ในญี่ปุ่น มูลค่า 206 ลบ. เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุน


บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ VTE ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 11/2559 เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2559 อนุมัติการเพิ่มวงเงินการออกและเสนอขายตราสารหนี้ระยะสั้นในรูปตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange: B/E) ที่มีอายุไม่เกิน 270 วันนับแต่วันที่ออกตั๋ว ณ ขณะใดขณะหนึ่งจากจำนวนไม่เกิน 3,500 ล้านบาท (สามพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน) เป็นจำนวนไม่เกิน 5,000 ล้านบาท (ห้าพันล้านบาทถ้วน)

อนึ่ง ตราสารหนี้ระยะสั้นในรูปตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange: B/E) ที่ได้รับอนุมัติให้เพิ่มวงเงินการออกและเสนอขายข้างต้นได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 5/2559 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2559 ให้ออกและเสนอขายภายใต้วงเงิน ณ ขณะใดขณะหนึ่ง จานวนไม่เกิน 1,200 ล้านบาท (หนึ่งพันสองร้อยล้านบาทถ้วน) และได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 7/2559 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2559 ให้เพิ่มวงเงินการออกและเสนอขายจากวงเงิน ณ ขณะใดขณะหนึ่ง จานวนไม่เกิน 1,200 ล้านบาท (หนึ่งพันสองร้อยล้านบาทถ้วน) เป็นจานวนไม่เกิน 3,500 ล้านบาท (สามพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน)

โดยบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มวงเงินการออกและเสนอขายตราสารหนี้ระยะสั้นในรูปตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange: B/E) ดังกล่าวเพื่อนาไปใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนสาหรับการประกอบธุรกิจ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. บริษัทได้ทำการเจรจากับทางสถาบันการเงินแล้วมีแนวโน้มว่าสถาบันการเงินจะขอหลักประกันการออก L/C เพิ่มเติมจากเดิมที่คาดว่าจะเป็นร้อยละ 40 เป็นร้อยละ 90 ถึง 100 สาหรับการวางหลักประกันในช่วงแรก ดังนั้น เพื่อความคล่องตัวในการดาเนินโครงการทั้ง มินบู และ บิลิรัน จึงอาจมีความจาเป็นที่จะต้องมีการออกตั๋วแลกเงินเพิ่มเติม

2. มีผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า เข้ามาติดต่อบริษัทเพื่อขอใช้บริการรับเหมาก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ที่มีการให้ระยะเวลาการชาระเงินแก่เจ้าของโครงการที่ยาวขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เจ้าของโครงการในการหาแหล่งเงินกู้ระยะยาว (Engineering Procurement and construction with Financing: EPC+F) อีกหลายราย จึงทาให้บริษัทฯมีความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังมีมติอนุมัติให้บริษัททำการวางเงินมัดจำแบบเรียกคืนได้ จำนวนประมาณ 600 ล้านเยน หรือประมาณ 206 ล้านบาท (อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 0.343 บาทต่อ 1 เยน) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเขตภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตประมาณ 15 เมกะวัตต์ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น

โดยทั่วไปธุรกิจดังกล่าวผู้ลงทุนส่วนใหญ่จะต้องวางเงินมัดจำแบบเรียกคืนได้ประมาณ 10%-30% ของมูลค่าโครงการเพื่อเป็นสิ่งยืนยันความตั้งใจของผู้ซื้อและเพื่อให้ผู้ขายสามารถเปิดเผยข้อมูลที่จะใช้ในการตรวจสอบสถานะของโครงการ (Due Diligence) เช่น ใบอนุญาต สัญญาซื้อขายไฟและเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน ทั้งนี้บริษัทวางเงินมัดจำคิดเป็นประมาณ 10% ของมูลค่าโครงการเท่านั้นซึ่งถือเป็นจำนวนขั้นต่ำของธรรมเนียมการเงินมัดจาในธุรกิจนี้ ประกอบกับเงินมัดจำนี้เป็นเงินมัดจำแบบเรียกคืนได้ ดังนั้นคณะกรรมการบริษัทเมื่อพิจารณาผลตอบแทนที่บริษัทจะได้จากการลงทุนเทียบกับความเสี่ยงข้างต้นจึงมีความเห็นว่าการกระทำดังกล่าวสมเหตุสมผล

อีกทั้งอนุมัติให้แต่งตั้งประธานกิตติมศักดิ์ของบริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) โดยมีมติเสนอให้แต่งตั้งนายคัทซึยูกิ ทาเคอุจิ (Mr. Katsuyuki Takeuchi) ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธาน Asahi Shokuhin Company Limited และปัจจุบันดารงตาแหน่งกรรมการตรวจสอบของ Shikoku Electricity Power Company ทั้งนี้ นายคัทซึยูกิ ทาเคอุจิเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญด้านการลงทุน และด้านพลังงาน ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวโยงกันกับบริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2559 เป็นต้นไป

Back to top button