MK ทุ่มงบ 1.2 พันลบ.ขยายรง.ให้เช่า-คลังสินค้า ตั้งเป้าภายในปี 63 รายได้แตะ 1 หมื่นลบ.

MK ทุ่มงบ 1.2 พันลบ. ขยายพื้นที่เช่าโรงงาน-คลังสินค้า ตั้งเป้ารายได้พุ่งแตะ 1 หมื่นลบ.ภายในปี 63


นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า บริษัทจะใช้เงินลงทุน 1.2 พันล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการขยายพื้นที่เช่าโรงงานและคลังสินค้าในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนเพิ่มเป็น 250,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ภายในสิ้นปี 61 จากสิ้นปีนี้ที่มีพื้นที่เช่าโรงงานและคลังสินค้าอยู่ที่ 123,000 ตร.ม. โดยมีอัตราการเช่าแล้วอยู่ที่ 85% ขณะที่โครงการบางกอกฟรีเทรดโซนเป็นโครงการที่พัฒนาและบริหารงาน โดยบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ที่ MK ถือหุ้น 100%

ทั้งนี้ หากบริษัทสามารถขยายพื้นที่เช่าโรงงานและคลังสินค้าได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 250,000 ตร.ม. และมีอัตราการเช่าเต็ม 100% โครงการบางกอกฟรีเทรดโซนจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทเฉลี่ยปีละกว่า 500 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นไป จากปีนี้ที่โครงการบางกอกฟรีเทรดโซนมีรายได้อยู่ที่ 200 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนมีอัตราค่าเช่าของพื้นที่โรงงานเฉลี่ยอยู่ที่ 200 บาท/ตร.ม. และอัตราค่าเช่าพื้นที่ของคลังสินค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 175 บาท/ตร.ม.

“เรามองว่าการพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าเป็นโอกาสและช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ประจำให้กับบริษัท เพราะธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจที่มีสัญญาระยะยาว โดยโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนตอนนี้มีสัญญาในช่วง 3-9 ปี ที่ลูกค้าใช้บริการเช่าพื้นที่ของเรา และในอนาคตยังมีความต้องการเช่าโรงงานและคลังสินค้าจากลูกค้าต่างประเทศอีกจำนวนมาก เพราะประเทศไทยเป็นเหมือนศูนย์กลางของการขนส่งในภูมิภาคที่ผู้ประกอบการต่างชาติให้ความสนใจ และโครงการของเรามีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับลูกค้าที่ครบครัน เรามองว่าโครงการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะสร้างรายได้ประจำในระยะยาวให้กับบริษัท”นายวรสิทธิ์ กล่าว

นายวรสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมของบริษัทในระยะ 5 ปีนับจากปีนี้ (59-63) บริษัทตั้งเป้ามีรายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่มีรายได้อยู่ที่กว่า 3 พันล้านบทท โดยในปี 63 รายได้ประจำจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า คลังสินค้าและโรงงานให้เช่า และอื่นๆ จะอยู่ที่ 4 พันล้านบาท และส่วนที่เหลืออีก 6 พันล้านบาท จะมาจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรายได้ประจำของธุรกิจนอกเหนือจากโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนแล้ว จะมาจากโครงการอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า “พาร์ค คอร์ท สุขุมวิท 77” บนเนื้อที่ 30 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยมีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 4/60

อีกทั้ง บริษัทยังอยู่ระหว่างการมองหาการลงทุนในธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องที่สามารถสร้างรายได้ประจำให้กับบริษัทเพิ่มเติม เพื่อให้รายได้ประจำเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมกันนี้จะมีสัดส่วนกำไรจากธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำเพิ่มเป็น 50% จากปีนี้ที่อยู่ที่ 10%

ส่วนแผนงานในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจะมีการเปิดโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ในกรุงเทพฯอีกจำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 1.2-1.4 พันล้านบาท หลังจากที่ครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.5-1.6 พันล้านบาท และวางแผนที่จะขายที่ดินที่มีอยู่ในมือที่ไม่สร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทอีก 200-300 ล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยหากขายที่ดินในมือออกไปแล้วบริษัทยังเหลือที่ดินในมืออีกราว 2 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยขายออกไปในอนาคต โดยบริษัทคาดว่ารายได้ในปีนี้จะทำได้กว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งในครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 1.28 พันล้านบาท และในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่ทั้งหมด 600-700 ล้านบาทด้วย

 

 

 

Back to top button