
ประชุมโอเปกท่าจะจบไม่สวย หลังราคาน้ำมันดิบรูดลงหนัก
ประชุมโอเปกท่าจะจบไม่สวย หลังราคาน้ำมันดิบรูดลงหนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (30 พ.ย.) จะมีการประชุมกลุ่มโอเปกอย่างเป็นทางการ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียถึงประเด็นการปรับลดกำลังการผลิต ซึ่งคาดว่าประเทศไทยจะทราบผลเช้าวันพรุ่งนี้(1 ธ.ค.)
โดย บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (30 พ.ย.) ว่า ทิศทางตลาด Sideway ภายใต้การเคลื่อนไหวที่คาดยังมีความผันผวน แม้ได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ล่าสุดที่ออกมาสดใส แต่คาดหลักๆ ตลาดให้น้ำหนักต่อประเด็นการประชุมของกลุ่มโอเปก ที่จะมีขึ้นในวันนี้ โดยคาดยังคงมีความไม่แน่นอนว่าจะสามารถปรับลดการผลิตน้ำมันได้หรือไม่ ส่งผลให้ราคาน้ำมันในช่วง 1 – 2 วันที่ผ่านมา มีความผันผวนสูง
โดยคาดว่าหากไม่สามารถตกลงกันได้ ราคาน้ำมันมีโอกาสปรับลดลงไปที่ 35USD และในทางตรงข้ามหากสามารถตกลงกัน คาดราคาน้ำมันมีโอกาสปรับขึ้นไปสูงกว่า 50USD
ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ คาดว่า ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับขึ้นสูงกว่า 50 USD/บาร์เรล หากโอเปกบรรลุข้อตกลงลดการผลิตน้ำมันสู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลงจาก 33.82 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนต.ค.
อนึ่งสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.85 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 45.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะเดียวกันสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ดิ่งลง 1.86 หรือ หรือ 3.9% ปิดที่ 46.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การประชุม OPEC ในเย็นวันนี้ (30 พ.ย.) ประเด็นที่ต้องตามคือ
1.) กลุ่ม OPEC จะปรับลดกำลังการผลิตลงจากปัจจุบัน 33.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน เท่าใด ระหว่าง 0.6-1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
2.) ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม OPEC มีรายใดที่จะปรับลดกำลังผลิต และปรับลงเท่าใด
3.) จะปรับลดเมื่อใด และยาวนานแค่ไหน
4.) กลไกในการควบคุมการผลิตน้ำมัน โดยที่การเจรจาที่จนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถระบุผลได้ บอกถึงโอกาสที่จะลดกำลังการผลิตลงมากๆ นั้นว่าเป็นไปได้ยาก แต่ถึงกระนั้นตลาดก็ไม่ได้คาดหวังมากอยู่แล้ว เราประเมินว่า ถ้าลดน้อยกว่า 7 แสนบาร์เรลต่อวัน ราคาน้ำมันดิบ WTI จะอยู่ในกรอบ 40-50 ดอลลาร์ แต่ถ้าลดมากกว่านี้ จะขึ้นเป็น 50-55 ดอลลาร์