VTE วางเงินมัดจำศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าโซลาร์-ลมญี่ปุ่น มูลค่า 77.68 ลบ.

VTE เตรียมวางเงินมัดจำเพื่อศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าโซลาร์-ลม ในญี่ปุ่น รวม 3 โครงการ มูลค่า 77.68 ลบ.


บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ VTE ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวานนี้ (17 ม.ค.) อนุมัติให้วางเงินมัดจำแบบเรียกคืนได้ ในวงเงินรวม 77.68 ล้านบาท เพื่อศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์) และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในญี่ปุ่น รวม 3 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการวางเงินมัดจำในเดือนม.ค. และผลการตรวจสอบสถานะสินทรัพย์ (Due Diligence) จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/60 ขณะเดียวกันจะขายสัญญาลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการในญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน หลังมีผู้สนใจซื้อ

โดย VTE แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติให้บริษัทเข้าลงนามในข้อตกลงเบื้องต้น สำหรับการซื้อขายสัญญาลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์คาโงะชิมา  (Kagoshima) ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 1.172 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิงะ (Iga) ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 980.98 กิโลวัตต์

ขณะนี้มีผู้ประกอบการที่แสดงความสนใจและได้เสนอเงื่อนไขการซื้อขายเบื้องต้น โดยเสนอทำการวางเงินมัดจำประมาณ 89 ล้านเยน หรือประมาณ 27.7 ล้านบาท ผ่านบริษัทย่อย บริษัท วินเทจ โฮลดิ้ง เจแปน จำกัด ทั้งนี้ ทางผู้ซื้อจะดำเนินการวางเงินมัดจำดังกล่าวในช่วงเดือนม.ค. และคาดว่าผลการตรวจสอบสถานะของผู้ซื้อจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/60

โดยคณะกรรมการบริษัท อนุมัติให้บริษัทวางเงินมัดจำแบบเรียกคืนได้ จำนวนประมาณ 150 ล้านเยน หรือราว 46.68 ล้านบาท เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) และจังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตประมาณ 15 เมกะวัตต์ และ 8 เมกะวัตต์ตามลำดับ โดยผ่านบริษัทย่อย บริษัท วินเทจ โฮลดิ้ง เจแปน จำกัด ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการวางเงินมัดจำดังกล่าวในช่วงเดือนม.ค. และคาดว่าผลการตรวจสอบสถานะดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/60

นอกจากนี้ยังอนุมัติให้วางเงินมัดจำแบบเรียกคืนได้ จำนวนประมาณ 100 ล้านเยน หรือราว 31 ล้านบาท เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในจังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตประมาณ 288 เมกะวัตต์ โดยผ่านบริษัทย่อย บริษัท วินเทจ โฮลดิ้ง เจแปน จำกัด ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการวางเงินมัดจำดังกล่าวในช่วงเดือนม.ค. และคาดว่าผลการตรวจสอบสถานะดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/60

Back to top button