AOT คาดจำนวนผู้โดยสาร Q2/58 โต 5% ยันการยกเลิกชาร์เตอร์ไฟล์ทไม่กระทบ

AOT คาดจำนวนผู้โดยสาร Q2/58 โต 5% มองรายได้ปีนี้โตกว่าที่คาดว่าจะโต 10% หลังมีผู้โดยสารเพิ่ม เผยการยกเลิกชาร์เตอร์ไฟล์ทไม่กระทบ เนื่องจากสามารถเช่าเครื่องบินสัญชาติอื่นมาบินได้


นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปีนี้ (ต.ค.57- ก.ย.58) จะได้เกินกว่าประมาณการที่คาดเติบโต 10% หรือคาดว่าจะมากกว่า 15% จากผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกที่มีปริมาณผู้โดยสารเติบโตดีเกินคาด โดยในไตรมาส 2/58 (ม.ค.-มี.ค.58) มีปริมาณผู้โดยสารเติบโต 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และดีกว่าไตรมาส 1/58 (ต.ค.-ธ.ค.57)

อีกทั้งคาดว่าปริมาณผู้โดยสารทั้งปี 58 จะเติบโต 5% โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน ที่เพิ่มเข้ามาอีก 1 ล้านกว่าคนจากปีก่อนมีจำนวน 5 ล้านคน ส่วนนักท่องเที่ยวรัสเซียลดลง 5% แต่ก็ได้นักท่องเที่ยวจากอินเดียเข้ามาทดแทน

ส่วนกรณีที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ให้กรมการบินพลเรือนของไทยแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญ (SSC) และส่งผลให้กรมการบินพลเรือนญี่ปุ่น และกรมการบินพลเรือนเกาหลีใต้ สั่งห้ามเครื่องบินเช่าเหมาลำนั้น ทางบริษัทไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด รายได้ไม่กระทบ เนื่องจากแม้ว่าเครื่องบินเช่าเหมาลำจากประเทศไทยถูกสั่งห้ามทำการบิน แต่ก็สามารถนำเครื่องบินสัญชาติอื่นมาบินได้ เนื่องจากความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยมีอยู่สูง

สำหรับความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 ขณะนี้ส่งเรื่องไปที่กระทรวงคมนาคมแล้ว และรอการพิจารณาจากสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) คาดว่าจะสามารถเปิดประกวดราคาได้ในต้นปี 59 ทั้งนี้เบื้องต้นแบ่งออกเป็น 3 งานหลัก ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางวิ่งสำรอง หรือรันเวย์เส้นที่ 3 วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (ด้านเหนือ) วเงิน 2.76 หมื่นล้านบาท และโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ประกอบด้วยงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 งานขยายอาคารผู้โดยสารด้านตะวันออก และ งานก่อสร้างอาคารที่จอดรถยนต์และอาคารสำนักงาน ทั้งนี้ จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 85 ล้านคน/ปี ปัจจุบัน มีจำนวนผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 50 ล้านคน/ปี

นอกจากนี้ AOT และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการลู่ปั่นจักรยานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อยกระดับลู่ปั่นจักรยานรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้เป็นสนามปั่นจักรยานมาตรฐานสากลระดับโลกที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย และขยายเวลาให้บริการ เพื่อเป็นสนามปั่นกลางคืนแห่งแรกของไทยพร้อมเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับกลุ่มผู้มาใช้บริการได้มากขึ้น ทั้งนักปั่นมืออาชีพ และนักปั่นมือใหม่

โดย AOT ได้ใช้งบประมาณในการสร้างลู่ปั่นจักรยานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นเงินประมาณ 29 ล้านบาท โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 ทั้งนี้ มีผู้ที่รักการปั่นจักรยานมาออกกำลังกายที่ลู่ปั่นจักรยานแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งการปรับปรุงให้ที่นี่เป็นลู่ปั่นจักรยานที่ได้มาตรฐานยิ่งขึ้นจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนและสังคมในวงกว้าง  ทอท. เล็งเห็นความพร้อมและความตั้งใจจริงของธนาคารไทยพาณิชย์ในการดำเนินโครงการด้วยแนวคิดการปรับปรุงพัฒนาที่ครบวงจรและมีมาตรฐานแบบมืออาชีพโดยไม่แสวงหาผลกำไร  ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของทั้งสององค์กร

ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์จะรับผิดชอบในการพัฒนาปรับปรุงผิวทางลู่ปั่นจักรยานรอบนอกให้เรียบได้มาตรฐานระดับสากล จัดสร้างจุดพัก ติดตั้งป้ายกฎ กติกาและข้อมูลอื่นที่เป็นประโยชน์ในบริเวณลู่ปั่นจักรยานรอบนอก จัดสร้างลู่ปั่นจักรยานรอบในเพิ่มเติม สร้างห้องน้ำ จัดพื้นที่ร้านอาหารและเครื่องดื่ม จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนระบบรักษาความปลอดภัยของนักปั่นจักรยาน เช่น ระบบกล้องวงจรปิด และระบบไฟฟ้าแสงสว่างโดยรอบตลอดระยะทางของลู่ปั่นรอบนอก เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการได้ในเวลากลางคืน และมีการใช้เทคโนโลยี RFIDในระบบลงทะเบียนผู้ปั่นจักรยานเพื่อตรวจสอบการผ่านเข้า-ออกในขั้นนี้คาดว่าจะปิดปรับปรุงลู่ปั่นเป็นการชั่วคราวในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน และเมื่อเปิดให้บริการลู่ปั่นที่ปรับปรุงแล้วจะไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายกับผู้มาใช้บริการลู่ปั่น

Back to top button