SMIT พุ่งเกือบ 4% หลังได้รับการรับรองชุบแข็งชิ้นส่วนเครื่องบิน

SMIT พุ่งเกือบ 4% หลังข่าวได้รับการรับรองชุบแข็งชิ้นส่วนเครื่องบินเป็นรายแรกของปท. ล่าสุด ณ เวลา 10.35 น. ราคาอยู่ที่ 5.40 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 3.85% สูงสุดที่ 5.55 บาท ต่ำสุดที่ 5.35 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 72.11 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท สหมิตรเครื่องกล จำกัด (มหาชน) หรือ SMIT ณ เวลา 10.35 น. ราคาอยู่ที่ 5.40 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 3.85% สูงสุดที่ 5.55 บาท ต่ำสุดที่ 5.35 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 72.11 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.24%

โดยราคาหุ้น SMIT ปรับตัวขึ้นแรงหลังจากที่มีข่าวได้รับใบรับรองเกี่ยวกับโรงชุบของบริษัท ซึ่งเป็นการรับรองว่าบริษัทสามารถชุบแข็งชิ้นส่วนเครื่องบินเป็นรายแรกของประเทศไทย

นายชัยศิลป์ แต้มศิริชัย ประธานกรรมการ SMIT ได้เปิดเผยว่า บริษัทได้รับใบรับรอง Quality Management System Standard: ISO 9001:2008 AND AS9100C (TECHNICALLY EQUICALENT TO EN 9100:2009 AND JISQ 9100:2009) ซึ่งเป็นใบรับรองว่าโรงชุบของบริษัทสามารถชุบแข็งชิ้นส่วนเครื่องบินเป็นรายแรกของประเทศไทย

ทั้งนี้ การที่บริษัทได้รับใบรับรองมาตรฐานชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมการบิน AS9100 แล้ว ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการขอใบรับรอง NADCAP  ซึ่งการขอใบอนุญาตดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก และมีผู้เล่นในอุตสาหกรรมนี้ค่อนข้างน้อยมาก โดยบริษัทก็มีการลงทุนอย่างมากเพื่อที่จะให้ได้ในอนุญาตดังกล่าว

โดยบริษัทคาดว่าจะได้ใบรับรอง NADCAP ภายในปีนี้ เพื่อให้สามารถรองรับลูกค้าในการชุบแข็งชิ้นส่วนเครื่องบิน โดยปัจจุบันบริษัทมีจำนวนลูกค้าแล้วกว่า 5 ราย และคาดว่าปีหน้าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 20 ราย อีกทั้งยังจะส่งผลให้รายได้จากธุรกิจชุบแข็งปีหน้าเติบโตอีกเท่าตัว จากปัจจุบันที่มีรายได้จากธุรกิจชุบแข็ง 10 ล้านบาทต่อเดือน หรือปีละกว่า 100 ล้านบาท นอกจากนี้ในส่วนของการชุบแข็งชิ้นส่วนเครื่องบินยังให้อัตรากำไรขั้นต้นถึง 70% ถือว่าสูงกว่าระดับปกติมาก

 

ด้าน บล.เออีซี แนะนำหุ้น SMIT โดยมองแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตโดดเด่นอย่างมาก เนื่องจากได้งานใหม่เข้ามาหลายด้าน รวมทั้งธุรกิจเพิ่มเติมใหม่ ๆ ที่จะทำให้โอกาสทุบสถิติสูงกว่ารอบแรกที่ประเมินไป และอัตรากำไรค่อนข้างสูงกว่าระดับ 10% จากปีก่อนที่ทำให้ 9.5%  เครื่องทำน้ำแข็ง เครื่องแยกขยะ เครื่องตัดวัสดุ และธุรกิจใหม่เกี่ยวกับเหล็กเกรดพิเศษด้านอากาศยาน จะทำให้กำไรกระฉูดอย่างมาก

สำหรับด้านงบการเงินที่แทบไม่มีหนี้  กำไรสะสมมาก  มีโอกาสจ่ายปันผลมาก ถือเป็นหุ้นที่ซ่อนมูลค่า และมีคุณภาพอย่างแท้จริง หากประเมินว่ากำไรปีนี้แตะ 2.5 พันล้านบาท ขณะที่กราฟกำลังม้วนตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี และเดินหน้าต่อไปมีแนวต้านสำคัญที่ 6.00 บาท

Back to top button