MEGA คาดรายได้-กำไรปีนี้โตทะลุเป้า 10% ตามยอดขายในประเทศและตปท.

MEGA คาดรายได้-กำไรปีนี้โตทะลุเป้า 10% ตามยอดขายในประเทศและตปท. หลังครึ่งปีแรกโตกว่าคาด – เล็งหาซื้อกิจการหรือร่วมลงทุนอย่างต่อเนื่อง หวังส่งเสริมการเติบโตของบริษัท


นายวิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ๊นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดรายได้กำไรปีนี้จะโตเกินเป้าหมายที่วางไว้ 5-10% จากปี 59 ที่มีรายได้อยู่ที่ 8,842.40 ล้านบาท และกำไร 794.91 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตทั้งยอดขายในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามที่มียอดขายเติบโตค่อนข้างมาก ขณะที่ประเทศอื่นๆก็มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

“สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศของเราสูงถึง 70-80% ซึ่งเป็นส่วนที่มียอดขายเติบโตได้ค่อนข้างมาก ทำให้รายได้ของบริษัทครึ่งปีแรกเติบโตไปแล้ว 11.2% ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตไปถึง 45.3% โดยกำไรที่เติบโตค่อนข้างมากมาจากการขายสินค้าที่เป็นเบรด์นของบริษัทฯเองมากขึ้น ขณะที่ทิศทางการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ซึ่งจะมีการเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรกอยู่แล้ว บริษัทจึงคาดว่าผลประกอบการโดยรวมปีนี้จะเติบโตมากกว่าที่คาดไว้ นายวิเวก กล่าว

นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมออกสินค้าใหม่มาวางตลาดอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ในขณะเดียวกันบริษัทก็มีการขยายตลาดไปในทวีปแอฟริกา โดยจะเน้นเจาะตลาดแอฟริกาตะวันออกและตะวันตก จากปัจจุบันมีการส่งออกสินค้าไปยังประเทศหลักๆ ได้แก่ เวียดนาม เมียนมา กัมพูชา เป็นต้น

ส่วนการร่วมทุนกับ บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE จัดตั้งบริษัท เมก้า มาลี จำกัด โดย MEGA ถือหุ้นในสัดส่วน 51% นั้น ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการพัฒนาและวิจัยสินค้า คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปลายไตรมาส 1/61 ล่าช้าจากแผนเดิมที่คาดว่าจะเริ่มผลิตออกมาจากวางจำหน่ายได้ในช่วงไตรมาส 4/60 เนื่องจากการวิจัยและพัฒนาสินค้า รวมถึงการขออนุญาตจากองค์การอาหารแยะยา (อย.) มีความล่าช้าออกไปเล็กน้อย

สำหรับศูนย์ดูแลรักษาสุภาพ (Wellness Care) ปัจจุบันได้เปิดให้บริการแล้ว 15 ห้อง โดยภายใน 1-2 ปีนี้จะเป็นช่วงของการทำความเข้าใจกับผู้บริโภคให้มากขึ้น และในปี 62 บริษัทจะเริ่มพิจารณาถึงรายได้ที่จะเกิดขึ้น รวมไปถึงแผนการขยายสาขาไปทั้งในและต่างประเทศด้วย

นายวิเวก กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า บริษัทยังคงเน้นมองหาซื้อกิจการหรือร่วมลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่คงต้องใช้ระยะเวลาในการหาธุรกิจรายที่เข้ากันได้ และส่งเสริมการเติบโตของบริษัทให้มากขึ้น โดยจะต้องเป็นกิจการที่ใกล้เคียงกันเป็นหลัก ซึ่งบริษัทสนใจทั้งกิจการในประเทศ และต่างประเทศ เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เพื่อต่อยอดธุรกิจของบริษัทฯไปยังตลาดกลุ่มอื่นๆมากขึ้น

Back to top button