เงินแปลง “JAS-W3” ทะลัก 2.60 พันลบ. ลุ้น JAS เข็นกำไรสะสมทำปันผล

บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) โผล่ใช้สิทธิแปลง JAS-W3 จำนวน 679.2 ล้านหน่วย ส่งผลถือหุ้น 9.70% ใน JAS พร้อมบันทึกกำไรทันทีกว่า 1 พันล้านบาท ฟากคนวงการหุ้นลุ้นปันผลเหมือนเดิม! พบกำไรสะสมเหลือกว่า 3 พันล้านบาท จับตาบริษัทได้เงินเพิ่มจากวอร์แรนต์รอบนี้ 2.60 พันล้านบาท งานนี้อาจมีสมนาคุณผู้ถือหุ้นทั้ง “ปันผลกำไรสะสม” และ “ปันผลกำไรสุทธิ” จากงวดปี 2560


จากก่อนหน้านี้ กรณีบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งรายงานการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3 หรือ JAS-W3 เป็นหุ้นสามัญประจำงวดวันที่ 29 ธ.ค. 2560 รวมทั้งสิ้น 679.22 ล้านหน่วย คิดเป็นมูลค่าการแปลงสภาพกว่า 2.60 พันล้านบาท ส่งผลให้มีจำนวนหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิรอบดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 747.82 ล้านหุ้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานวานนี้ (11 ม.ค.) ว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ประกาศการรับหุ้นเพิ่มทุนจำนวนดังกล่าว โดยจะเริ่มซื้อขายตั้งแต่วันนี้ (12 ม.ค.) เป็นต้นไป

สำหรับการเพิ่มทุนครั้งนี้จำนวน 747.82 ล้านหุ้น ส่งผลให้ทุนใหม่ของ JAS เพิ่มขึ้นเป็น 3.71 พันล้านบาท คิดเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 7.42 พันล้านหุ้น จากทุนเดิม 3.34 พันล้านบาท หรือคิดเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 6.67 พันล้านหุ้น ซึ่งจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นมาข้างต้น เป็นผลจากการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ JAS-W3 จำนวน 679.22 ล้านหน่วย ที่อัตรา 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1.101 หุ้นสามัญ โดยมีราคาใช้สิทธิที่ 3.904 บาทต่อหุ้น

ด้านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุ ได้รับแบบรายงานการได้มา/จำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ โดยเป็นการสรุปแบบ 246-2 ประจำวันที่ 11 ม.ค. 2561 ซึ่งผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบรายงานการได้มาหุ้น JAS โดยบริษัท หลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หากประเมินจากกรณีที่ SCBS เคยซื้อ JAS-W3 จากนายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS ก่อนหน้านี้ จำนวน 650 ล้านหน่วย ด้วยต้นทุน 3.40 บาท ส่งผลให้ SCBS ได้รับกำไรทางบัญชีจากการใช้สิทธิในครั้งนี้ทันทีราว 860 ล้านบาท หากเปรียบเทียบจากราคาปิดตลาดของ JAS วานนี้ที่ระดับ 8.20 บาทต่อหุ้น ขณะที่ยังไม่รวมส่วนจากการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่มีอยู่เดิมราว 29.22 ล้านหน่วย

โดยกรณีที่หากว่า JAS-W3 ที่มีอยู่เดิมเป็นการได้มาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เบื้องต้นมีการประเมินว่า SCBS สามารถบันทึกกำไรทางบัญชีจากส่วนนี้อีกราว 138 ล้านบาท หรือคิดเป็น SCBS ได้รับประโยชน์จากส่วนต่างมูลค่าหุ้น (Capital Gain) สูงสุดจากการใช้สิทธิครั้งนี้ รวมกันทั้งสิ้นประมาณ 1 พันล้านบาท

อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงาน ยังคงให้จับตากรณี JAS ได้รับเงินเพิ่มทุนเข้ามาครั้งนี้กว่า 2.6 พันล้านบาท ประกอบกับการที่บริษัทฯยังมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่อีกราว 1.34 พันล้านบาทจะส่งผลให้มีความจำเป็นในการรักษาระดับกำไรสะสม (Retained Earnings) ลดลง และคณะกรรมการบริษัทฯจะมีการพิจารณาอนุมัติการจ่ายปันผลจากกำไรสะสม หลังจากการประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 4/2560 งวดสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2560 หรือไม่

นอกจากประเด็นเรื่องการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสม ยังคงต้องจับตาการจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิของผลการดำเนินงานงวดประจำปี 2560 ด้วย โดยการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า JAS มีกำไรสุทธิ จำนวน 1.78 พันล้านบาท สำหรับช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย. 2560) ซึ่งกำไรต่อหุ้น (EPS) สำหรับงวดดังกล่าว ก่อนหน้ามีการใช้สิทธิฯซึ่งบริษัทมีจำนวนหุ้นอยู่ราว 6.35 พันล้านหุ้น อยู่ที่ 0.28 บาทต่อหุ้น

ดังนั้น จึงต้องรอติดตามผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2560 ที่กำลังจะมีการประกาศออกมาในเร็วๆ นี้ ซึ่งหากปรากฏตัวเลขกำไรออกมาได้ก็จะส่งผลให้มี EPS เพิ่มขึ้น และหมายถึงโอกาสที่บริษัทฯจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้สูงขึ้นด้วย

Back to top button