
SJWD เด่นรับเทรนด์โลจิสติกส์!
SJWD เป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมระหว่าง SCGL บริษัทในกลุ่มปูนซิเมนต์ไทย กับ JWD
คุณค่าบริษัท
บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD เป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมระหว่างบริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SCGL) บริษัทในกลุ่มปูนซิเมนต์ไทย กับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ซึ่งถือเป็นอีกตัวอย่างของบริษัทที่ควบรวมกันแล้วประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน
พิสูจน์ได้จากผลประกอบการในปี 2566 ที่มีรายได้รวมเพิ่มเป็น 23,962.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 761.3 ล้านบาท ส่วนปี 2567 มีรายได้รวมแตะที่ 24,705.1 ล้านบาท กำไรสุทธิพุ่งไป 1,119 ล้านบาท
ขณะที่ประเดิมโค้งแรกปี 2568 ด้วยกำไรสุทธิ 365.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 122.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 164.1 ล้านบาท จากความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการควบคุมต้นทุน และการขยายธุรกิจใหม่ที่สร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,440 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% มื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจรับฝากและบริหารรถยนต์ ซึ่งขยายตัวจากงานมอเตอร์เอ็กซ์โป และการเติบโตของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ธุรกิจขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบที่เพิ่มขึ้นจากการขนส่งถ่านหิน ส่งออกปูนเม็ด และมันสำปะหลัง รวมถึงธุรกิจจัดเก็บของใช้ส่วนตัวและของมีค่าที่รายได้จากบริการเช่าพื้นที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ด้านกลุ่มธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ในต่างประเทศที่มีการเข้าซื้อกิจการ SCG International Vietnam Co., Ltd. โดยรับรู้รายได้เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรกตั้งแต่ไตรมาส 4/2567
ขณะที่ในปีนี้บริษัทมีเป้าหมายที่ต้องพุ่งชน ด้วยการผลักดันรายได้ให้เติบโต 12% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า พร้อมวางแผนเติบโตเฉลี่ยปีละ 12% ในช่วงปี 2567-2572 และตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิเติบโต 8%
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า จากผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 1/2568 ของ SJWD แนวโน้มกำไรในช่วงที่เหลือของปียังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง จาก 1) ธุรกิจ Auto yard แม้ว่าในไตรมาส 2/2568 จะเข้าสู่โลว์ซีซั่น แต่ปีนี้ลูกค้าค่ายรถยนต์จะต้องผลิตรถ 1.5 เท่าของรถที่นำเข้ามาจำหน่าย บริษัทอาจพิจารณาเช่าพื้นที่รับฝากรถเพิ่มที่แหลมฉบังหรือระยอง
2) ธุรกิจคลังสินค้า บริษัทพบว่าทุกครั้งที่เกิด disruption จะเป็นผลดีต่อธุรกิจคลังสินค้า ทำให้เกิดความต้องการฝากสินค้าในคลังมากขึ้น เมื่อสินค้าขายได้ช้าลง 3) การเปลี่ยนเส้นทางการขนส่ง จะเป็นผลดีต่อธุรกิจ Cross border 4) ธุรกิจห้องเย็น มีแนวโน้มเติบโตสดใสหลังเปิดคลังเพิ่ม 3 แห่ง (สระบุรี เชียงใหม่ รังสิต) ในไตรมาส 1/2568 และจะเปิดห้องเย็นนิชิเร เฟส 3 อีก 1 แห่งในไตรมาส 2/2568
และ 5) SJWD มีแผนขายสินทรัพย์ในโครงการ Alpha ประมาณ 3-4 โครงการเข้า REIT โดยหนึ่งโครงการคาดว่าจะเกิดขึ้นต้นไตรมาส 3/2568 มูลค่าสินทรัพย์ราว 600-800 ล้านบาท
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น SJWD ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 11.73 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 15.33 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 0.67 เท่า ก็ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.07 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 10.85 บาท จากราคาต่ำสุด 7.70 บาท และราคาสูงสุด 14.00 บาท