SGP เล็งแตกพาร์เหลือ 0.50 บ. เสริมสภาพคล่อง จ่อชงผู้ถือหุ้นไฟเขียว 27 เม.ย.นี้

SGP เล็งแตกพาร์ 1 บ. เหลือ 0.50 บ. เสริมสภาพคล่อง พร้อมชงผู้ถือหุ้นไฟเขียว 27 เม.ย.นี้


นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2561 มีมติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในงวดครึ่งหลังของปี 2560 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมเป็นเงินสดในอัตรา 1.00 บาท/หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 918.93 ล้านบาท โดยได้กำหนดวันให้สิทธิ (Record date) กับผู้ถือหุ้นในการรับเงินปันผล ในวันที่ 9 มี.ค.61 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พ.ค.61

ทั้งนี้บริษัทได้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินเงินงวดครึ่งปีแรกของปี 2560 ไปแล้วในอัตรา 0.50 บาท/หุ้น ดังนั้นรวมเป็นเงินปันผลจ่ายในปี 2560 เท่ากับ 1.50 บาท/ต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 1,378.40 ล้านบาท

นอกจากนี้ บอร์ดยังมีมติเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) เหลือหุ้นละ 0.50 บาท จากเดิมหุ้นละ 1 บาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องหมุนเวียนในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ หลังจากในช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนสถาบัน กองทุน และนักลงทุนทั่วไป สนใจเข้ามาลงทุนในหุ้น SGP เป็นจำนวนมาก แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของสภาพคล่อง ทำให้จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงพาร์ใหม่ ซึ่งจะนำเสนอมติดังกล่าวให้กับที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 61 พิจารณาในวันที่ 27 เมษายน 2561

ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2560 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 59,629.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,251.43 ล้านบาท หรือ 23.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 48,378.00 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,811.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,692.38 ล้านบาท หรือ 151.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,118.72 ล้านบาท

“รายได้และกำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัท สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากปริมาณการขายเพิ่มขึ้นและราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก (CP Saudi Aramco) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนในงวดเดียวกัน โดยราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกในปี 2560 เฉลี่ยประมาณ 484.58 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน เทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 339.58 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน” นายศุภชัย กล่าว

ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ระดับ 65,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากคาการณ์ในปีนี้ที่ระดับ 60,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามราคาก๊าซปิโตรเลียม (LPG) ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 580 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน และปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น โดยตั้งงบลงทุนในปีนี้กว่า 2,000 ล้านบาท รองรับแผนลงทุนใหม่ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมก้าวสู่ผู้นำด้านพลังงานครบวงจรในภูมิภาคเอเชีย ภายในปี 2565

Back to top button