
TTCL กู่ไม่กลับ! ลบอีก 14% นิวโลว์ในรอบ 7 ปี ชี้ธุรกิจเสี่ยงจากหนี้เสียโครงการ Rock Salt
TTCL กู่ไม่กลับ! ลบอีก 14% นิวโลว์ในรอบกว่า 7 ปี โบรกฯชี้ธุรกิจสี่ยงจากหนี้เสียโครงการ Rock Salt โดย ณ เวลา 11.58 น. อยู่ที่ระดับ 7.25 บาท ลบ 1.15 บาท หรือ 13.69% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 125.44 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL ณ เวลา 11.58 น. อยู่ที่ระดับ 7.25 บาท ลบ 1.15 บาท หรือ 13.69% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 125.44 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี โดยรับตั้งแต่หุ้นลงไปทดสอบระดับ 7.25 บาท เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2553
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า TTCL รายงายผลประกอบการไตรมาส 4/60 ขาดทุน 57 ล้านบาท เทียบกับกำไร 48 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 4/60 และ ไตรมาส 3/60 หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนผลประกอบการจะขาดทุน 84 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ 35 ล้านบาท และ 21% ล้านบาทในช่วงไตรมาส 4/60 และ ไตรมาส 3/60 ตามลำดับ
โดยผลประกอบการลดลงจาก 1) รายได้จากงาน EPC ที่ลดลง 53% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (จากงานในมือที่ต่ำ และความเสี่ยงของโครงการ Rock Salt) 2) อัตรากำไรของงาน EPC ที่ลดลงเป็น 2% จากเดิมที่ 4.5% และ 7.3% ในช่วง ไตรมาส 4/60 และ ไตรมาส3/60 และ 3) S&A ที่เพิ่มขึ้น 8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 22% เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และรายได้ที่ลดลง
นอกจากการดำเนินงานที่แย่ลงแล้ว TTCL ยังมีหนี้เสียของโครงการ Rock Salt 2.5 พันล้านบาท ในลาวที่หยุดก่อสร้างไปเมื่อปีก่อน โดยมี 635 ล้านบาท เป็นลูกหนี้ที่ครบกำหนดชำระไปแล้วเกิน 1 ปี และอีก 1.78 พันล้านบาท ยังไม่ได้เรียกเก็บ และมีงานอีก 108 ล้านบาท เป็นงานระหว่างการก่อสร้าง มองว่า TTCL มีโอกาสในการเพิ่มทุนจากการลงทุนในโครงการ Ahlone2 และโรงไฟฟ้า Kayin
ทั้งนี้ได้ปรับประมาณการลง และนำโรงไฟฟ้า Kayin ออกจากประมาณการ พร้อมทั้งสะท้อนรายได้และอัตรากำไรในช่วงไตรมาส 4/60 ที่อ่อนแอ ทำให้มูลค่าที่เหมาะสมลดลงเป็น 11.10 บาท อ้างอิง PER ที่ 25.7 เท่าสำหรับปี 2018F ทำให้คำแนะนำลดลงจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” โดยมีความเสี่ยงคือ หนี้เสียที่เพิ่มขึ้น, โรงไฟฟ้าที่ล่าช้า, การก่อสร้างที่ล่าช้า และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น