CHOW เผยโซลาร์ฟาร์มแห่ง 3 ในญี่ปุ่นแล้วเสร็จ หนุนรับรู้รายได้เพิ่ม

CHOW เผยโซลาร์ฟาร์มแห่ง 3 ขนาดกำลังการผลิต 2.388 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดมิยะซะกิ ประเทศญี่ปุ่น ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นโครงการที่ 3 หนุนรับรู้รายได้เพิ่ม


นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (CE) บริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจพลังงาน ในเครือบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) เฟสแรกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งลงทุนผ่านบริษัทย่อย มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 18 เมกะวัตต์ว่า ขณะนี้โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์โครงการไซโตะ ขนาดกำลังการผลิต 2.388 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดมิยะซะกิ ประเทศญี่ปุ่น ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นโครงการที่ 3

โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบระบบเพื่อเชื่อมสายส่งไฟกับการไฟฟ้าญี่ปุ่น คาดพร้อมเชื่อมต่อสายส่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) ได้ในเร็วๆ นี้ และจะรับรู้รายได้ทันที ซึ่งจะทำให้ CHOW มีโครงการโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์รวมจำนวน 9.6674 เมกะวัตต์ จากการลงทุนเฟสแรกจำนวน 18 เมกะวัตต์

สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ไซโตะ ถือเป็นโครงการที่ 3 ของ CHOW ที่จะเริ่มจ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้โรงไฟฟ้าโครงการเกียวแทงโก (Kyotango) กำลังการผลิต 4.019 เมกะวัตต์ (DC) ตั้งอยู่ที่เกียวโตประเทศญี่ปุ่น และโครงการโออิตะ (Oita) ขนาดกำลังการผลิต 3.2604 เมกกะวัตต์ ได้จ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ไปเรียบร้อยแล้ว จากการลงทุนเฟสแรกจำนวน 18 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออีก 8.3326  เมกะวัตต์อยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้าง และจะจำหน่ายไฟฟ้าได้ในปี 2558 ตามเป้าหมายที่วางไว้

ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นขนาด 18 เมกะวัตต์ บริษัทได้ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย พัฒนาโครงการอย่างครบวงจรทั้งการจัดหาที่ดิน ใบอนุญาตต่างๆ ที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายไฟฟ้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ และการก่อสร้างที่เกี่ยวข้อง โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 18 เมกะวัตต์ มีใบอนุญาตขายไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่การไฟฟ้าฯ ของประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ที่ราคา 40 เยนต่อหน่วย เป็นเวลา 20 ปี

อย่างไรก็ดี บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานทดแทนในตลาดญี่ปุ่นอย่างเต็มตัวหลังจากพบว่ายังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าจากโครงการพลังงานทดแทนอีกเป็นจำนวนมาก และบริษัทมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้เป็นอย่างดี โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศญี่ปุ่นใน 3 รูปแบบ

คือลงทุนด้วยตัวเองผ่านบริษัทย่อย โดยเริ่มเฟสแรกที่ขนาด 18 เมกะวัตต์ดังกล่าว ส่วนรูปแบบที่สองพัฒนาโครงการเพื่อขายให้กับพันธมิตร ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนาโครงการรวมทั้งสิ้น 150 เมกะวัตต์ และลงทุนร่วมกันพันธมิตรจำนวน 40 เมกะวัตต์ และในปีนี้มีนโยบายจะขยายการลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนด้วยตัวเองในเฟส 2  หลังจากที่เฟสแรกเริ่มรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟแล้ว

 

ที่มา: อินโฟเควสท์

 

Back to top button