สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ธ.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ธ.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอดูความชัดเจนว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมในวันที่ 15 ธ.ค.นี้หรือไม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย เพื่อจับสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,881.72 จุด ลดลง 27.88 จุด หรือ -0.10% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,132.52 จุด ลดลง 3.44 จุด หรือ -0.11% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,616.18 จุด ลดลง 5.64 จุด หรือ -0.07%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อย่างไรก็ดี ตลาดดีดตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดของวัน หลังมีข่าวว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนวางแผนที่จะเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าที่กำหนดไว้ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.26% ปิดที่ 405.34 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,070.72 จุด ลดลง 34.89 จุด หรือ -0.27% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,213.76 จุด ลดลง 20.14 จุด หรือ -0.28% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,848.03 จุด เพิ่มขึ้น 10.78 จุด หรือ +0.18%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของอังกฤษส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่ตลาดดีดตัวขึ้นพ้นจุดต่ำสุดของวันโดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่าสหรัฐและจีนวางแผนที่จะเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าที่กำหนดไว้ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,213.76 จุด ลดลง 20.14 จุด หรือ -0.28%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 59.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 64.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,468.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 16.702 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 24.1 ดอลลาร์ หรือ 2.68% ปิดที่ 922.6 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 12.50 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,869.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) หลังจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย รวมทั้งข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1095 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1064 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3204 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3146 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6813 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6831 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.73 เยน จากระดับ 108.62 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3230 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3229 ดอลลาร์แคนาดา แต่หากเทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.9834 ฟรังก์ จากระดับ 0.9879 ฟรังก์

Back to top button