CPF ดีดกว่า 4% โบรกฯแนะซื้อเป้า 35.80 บ. รับผลดีขายสินค้าผ่าน “เทสโก้” มากขึ้น

CPF ดีดกว่า 4% โบรกฯแนะซื้อเป้า 35.80 บ. รับผลดีขายสินค้าผ่าน "เทสโก้" มากขึ้น ล่าสุดอยู่ที่  25.25 บาท บวก 1.05 บาท หรือ 4.34% มูลค่าซื้อขาย 814.59 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ล่าสุด ณ เวลา 11.30 น. อยู่ที่  25.25 บาท บวก 1.05 บาท หรือ 4.34% สูงสุดที่ 25.75 บาท ต่ำสุดที่ 24.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 814.59 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 35.80 บาท/หุ้น จากการซื้อหุ้น 20% ในเทสโก้ เหนือความคาดหมายของบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง และตลาด แต่การที่ CPALL (CPF ถือหุ้น 34%) ไม่ต้องเพิ่มทุนก็ทำให้คลายความกังวลต่อ CPF ด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าในช่วง 1-2 ปี กำไรของ CPF จะลดลงจากประมาณการเดิมเล็กน้อย แต่ในระยะยาวจะได้ผลบวกจากการขายสินค้าเข้าในเทสโก้มากขึ้น

สำหรับบริษัทในกลุ่ม CP ได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นของ เทสโก้ ประเทศไทย และ เทสโก้มาเลเซีย มูลค่าประมาณ 10,576 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 338,445 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนจาก 1) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮสดิ้งส์ สัดส่วน 40% 2) CPALL สัดส่วน 40% และ 3)  CPF สัดส่วน 20% ซึ่งการซื้อขายดังกล่าวต้องผ่านเงื่อนไข คือ 1) Tesco PLC ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มผู้ขาย ต้องได้รับอนุมัติการผู้ถือหุ้น 2) ผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า และ 3) Ministry of Domestic Trade and Consumers Affairs of Malaysia อนุญาตให้ขายหุ้นในเทสโก้มาเลเซีย โดยไม่ต้องขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น CPF เงินลงทุน 1.5 พันล้านเหรียญฯ หรือ 47,991 ล้านบาท จะนำมาจากกระแสเงินสดและการกู้ยืม ซึ่งคาดว่าจะเสร็จภายในครึ่งหลังปี 2563

ในส่วนของ CPF จะได้ประโยชน์จากการมีช่องทางการขายสินค้ามากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มอาหารสด เนื่องจากเทสโก้ในประเทศไทยมีส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งในธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ต โดยมี 214 สาขา ตลาดโลตัส 179 สาขา และ Tesco Express 1,574 สาขา อีกทั้งมีไฮเปอร์มาร์เก็ตในมาเลเซีย 46 สาขา ซุปเปอร์มาร์เก็ต 13 สาขา และร้านค้าขนาดเล็ก 9 สาขา รวมทั้งมีพื้นที่ให้เช่าในศูนย์การค้า 56 สาขา ทั้งนี้ การที่ CPALL ซื้อ MAKRO เมื่อปี 2556 ทำให้ยอดขายของ CPF ผ่าน MAKRO เพิ่มขึ้นจาก 400 ล้านบาทเป็นประมาณ 1 หมื่นล้านบาทในปี 2562

ทั้งนี้การซื้อเทสโก้ดังกล่าวคิดเป็น EV/EBITDA 12.5 เท่า ซึ่งต่ำกว่าการซื้อกิจการของกลุ่มค้าปลีกในอดีตที่ 13-17 เท่า ส่วน P/Sales 1.5 เท่า ใกล้เคียงกับอดีตที่ 1.5-1.7 เท่า CPF  จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเทสโก้ (ไม่ต้องรวมงบการเงิน) ภายใต้สมมติฐานว่า CPF กู้ยืมเงิน 2 ใน 3 ของเงินลงทุน อัตราดอกเบี้ย 4% และส่วนแบ่งกำไรจาก CPALL ลดลงเล็กน้อย คาดว่าทำให้กำไรสุทธิลดลงจากประมาณการของบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง 1% และ 3% ในปี 2563 และ 2564 (ตามตาราง 1) แต่คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นในระยะยาวจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น คาด Net D/E เพิ่มขึ้นจาก 1.25 เท่า เป็น 1.4 เท่า ซึ่งยังอยู่ภายใต้ Bond Covenant ที่ 2 เท่า

Back to top button