NPS เผยไตรมาส 1/63 กำไรเพิ่ม 11% เล็งออกหุ้นใหม่ 2 ชุด วงเงิน 5 พันลบ.

NPS เผยไตรมาส 1/63 กำไรเพิ่ม 11% แตะ 587 ลบ. เล็งออกหุ้นใหม่ 2 ชุด วงเงิน 5 พันลบ.


บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ NPS ระบุว่า รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2563 มีกำไรสุทธิ 587 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เตรียมออกหุ้นกู้ระดมทุน 5,000 ล้านบาท  สำหรับชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2561 (NPS209A) ที่จะครบกำหนดชำระ และไถ่ถอนหุ้นกู้ของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2559 (NPS218A) คืนก่อนครบกำหนด

โดยผู้บริหาร NPS รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปี 2563 ว่า NPS มีรายได้รวมทั้งสิ้น 4,108 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 587 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต การบริหารจัดการด้านต้นทุนเชื้อเพลิง และการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิผล โดยในเดือนกรกฎาคม บริษัทได้ชำระคืนหุ้นกู้จำนวน 593.30 ล้านบาทที่จะครบกำหนด 2563 แล้ว

สำหรับในปี 2563 นี้ NPS มีแผนลงทุนสร้างสถานีไฟฟ้าและขยายระบบจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำในสวนอุตสาหกรรม 304 เพิ่มเติมเพื่อรองรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตเส้นใย อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ที่มีมูลค่าการลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาทตามแผนงานระยะยาวที่ต้องการใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อป้อนตลาดส่งออก จึงมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 44 MW ในปี 2564 และเพิ่มขึ้นจนครบ 150 MW ในปี 2568

โดยในเดือนสิงหาคม NPS มีแผนเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2563 มูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาท โดยกำหนดเปิดจองซื้อในวันที่ 4-6 สิงหาคม 2563 หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็น หุ้นกู้ชุดที่ 1 มูลค่า 1,500 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมไม่เกิน 1,000 ล้านบาท รวม 2,500 ล้านบาท อายุ 3.5 ปีครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2567 ให้สิทธิผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนได้ก่อนกำหนดมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.70 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้

ส่วนหุ้นกู้ชุดที่ 2 มูลค่า 1,500 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมไม่เกิน 1,000 ล้านบาท รวม 2,500 ล้านบาท อายุ 5 ปีครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568 ให้สิทธิผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนได้ก่อนกำหนด มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.20 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้

นอกจากนี้ NPS ยังขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้าโดยร่วมลงทุนกับบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ขนาดกำลังการผลิต 560 เมกะวัตต์ ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวได้เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2568 และจะเปิดดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2570

Back to top button