PTTEP ลดเป้าปริมาณขายปิโตรเลียมปีนี้เหลือโตเพียง 1%

PTTEP ลดเป้าปริมาณขายปิโตรเลียมปีนี้มาอยู่ที่ราว 3.26 แสนบาร์เรล/วัน โต 1% จากปีก่อน จากเดิมคาดโต 3% รับผลกระทบจากอัตราการเติบโตทางศก.โตน้อยกว่าคาด เผยไม่กังวลต้นทุนการเงินเพิ่มหากเฟดขึ้นดบ.


นางเพ็ญจันทร์ จริเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า บริษัทไม่มีความกังวลเกี่ยวกับประเด็นที่หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีสัดส่วนเงินกู้ที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เกือบ 100% แต่มีเงินกู้ที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ในสัดส่วนมากถึง 70-80% ของจำนวนเงินกู้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะเป็นเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีต้นทุนดอกเบี้ยเฉลี่ยราว 4%

นอกจากนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรักษาอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ในปีนี้ อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 69-70% ซึ่งเป็นไปตามแผนการควบคุมต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ เพื่อรองรับราคาน้ำมันที่มีความผันผวนและมีแนวโน้มของราคาลดลง อีกทั้งคาดว่า EBITDA Margin ในครึ่งปีหลังของบริษัทจะอยู่ในระดับ 70% จาก 72% ในครึ่งปีแรก

ส่วนราคาน้ำมันที่ได้ทำประกันความเสี่ยงแบบช่วงราคาที่กำหนดต่ำสุดไว้ที่กว่า 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลนั้น หากราคาน้ำมันต่ำกว่าระดับดังกล่าวบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบและอาจจะมีกำไรจากการทำประกันความเสี่ยง เนื่องจากได้รับค่าชดเชยในส่วนต่างของราคาน้ำมันและราคาที่ทำประกันความเสี่ยงไว้ อีกทั้งราคาน้ำมันปีนี้บริษัทได้ประเมินไว้ในระดับเดียวกับนักวิเคราะห์ต่างๆประเมินไว้ที่ราว  50-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยมองว่าในปีหน้าก็จะยังผันผวนอยู่ในช่วงราคาดังกล่าว เพราะยังมีอุปทานมากกว่าอุปสงค์ถึง 2 ล้านบาร์เรล/วัน

“เราคงไม่ได้รับผลกระทบมากนักหากราคาน้ำมันปีหน้าจะลงไปต่ำถึงระดับ 20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล…เพราะมีต้นทุนเงินสดต่อหน่วยเพียง 16.46 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล”นางเพ็ญจันทร์ กล่าว

ด้านบริมาณขายปิโตรเลียมปีนี้คาดว่าจะทำได้ราว อยู่ที่ราว 3.26 แสนบาร์เรล/วัน เติบโตจากปีก่อนประมาณ 1%  และมองว่าปริมาณการขายในครึ่งปีหลังคาดว่าจะอยู่ไนระดับใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่ 3.26 แสนบาร์เรล/วัน ส่วนปริมาณขายในปีหน้ามองว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเพราะจะรับรู้แหล่งแอลจีเรียเต็มปี

อนึ่ง ปริมาณการขายปิโตรเลียมในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตราว 1% จากปีก่อนนั้น นับว่าเป็นการปรับลดเป้าปริมาณการขายลงอีกครั้งจากเดิมที่เคยคาดว่าปริมาณขายปิโตรเลียมในปีนี้จะเติบโตราว 6% จาก 3.22 แสนบาร์เรล/วัน ก่อนจะปรับลดเหลือโตเพียง 3% จากปีก่อน ขณะที่ได้รับผลกระทบจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่เติบโตน้อยกว่าที่คาด ทำให้การผลิตจากแหล่งในประเทศได้รับผลกระทบในบางโครงการ

สำหรับการยื่นขอกรมสรรพากรเปลี่ยนรูปแบบวิธีการยื่นไฟลิ่งภาษีเป็นรูปสกุลดอลลาร์ จากปัจจุบันต้องแปลงเป็นเงินบาทก่อนยื่นเพื่อลดความผันผวนของค่าเงินนั้น โดยล่าสุดได้รับสัญญาณที่เป็นบวกและมีแนวโน้มจะปรับเกณฑ์ให้ แต่จะเริ่มบังคับใช้เมื่อใดนั้นไม่สามารถตอบได้เพราะเป็นกระบวนการทางราชการซึ่งมักจะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนพอสมควร นอกจากนี้บริษัทไม่มีนโยบายซื้อหุ้นคืนแม้ราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงไปกว่า 40% ในช่วงที่ผ่านมา โดยจะปล่อยให้ไปตามกลไกของตลาดหุ้น

Back to top button