“รัฐ” ร่วม “ธปท” วางพ.ร.ก.ซอฟต์โลน พักทรัพย์-หนี้ ช่วยเหลือ SME กระทบโควิด-19

รัฐบาล ร่วมกับ ธปท. เร่งช่วยเหลือ SME กระทบจากโควิด-19 เข้าถึงซอฟท์โลน-โครงการพักทรัพย์พักหนี้ โดยออกพระราชกำหนดมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูวงเงิน 2.5 แสนลบ. และมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ วงเงิน 1 แสนลบ.


นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ออกพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือ พ.ร.ก.ซอฟต์โลน ฉบับใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 1) มาตรการสินเชื่อฟื้นฟูวงเงิน 250,000 ล้านบาท โดยช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ 2 ต่อปี ในช่วง 2 ปีแรก เฉลี่ยไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี ตลอดระยะเวลามาตรการ

2) มาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจมีสิทธิ์ซื้อทรัพย์สินนั้นคืนในภายหลัง หรือมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ วงเงิน 100,000 ล้านบาท มีผลบังคับใช้ เมื่อเดือน เม.ย. 2564 ที่ผ่านมาแล้วนั้น ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. และสมาคมธนาคารไทยตระหนักถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้ และได้มีการหารือกันไปแล้วเพื่อกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ให้รวดเร็ว เพียงพอ และถูกกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะกลุ่ม SME

สำหรับยอดการให้ความช่วยเหลือจากมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูฯ ซึ่งล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานว่า อยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมลูกหนี้ 6 พันกว่าราย โดย 63% กระจายไปยัง SMEs ขณะที่มาตรการพักทรัพย์พักหนี้ มีมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับโอน 910 ล้านบาท

ทั้งนี้ ธนาคารรัฐจึงได้มีการออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำอย่างหลากหลาย อาทิ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มีสินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ ดอกเบี้ย 2% 2 ปีแรก ระยะเวลากู้ยืมสูงสุด 7 ปี สินเชื่อรายเล็กครอบคลุมธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งทางตรงทางอ้อมโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งธนาคารออมสิน มีสินเชื่อสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว ดอกเบี้ยปีแรก 0.10% แล้วปรับเพิ่มในปีต่อไป ชำระเงินต้นภายใน 3 ปี และยังมีสินเชื่อให้กับ Startup และผู้ประกอบการ Non-Bank ส่วนธนาคารกรุงไทย มีสินเชื่อธุรกิจ ดอกเบี้ย 2% 2 ปีแรก ค้ำประกันโด บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย.เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือระหว่างสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กับธนาคารรายใหญ่ 5 แห่ง ในการเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกอบการ SME ในห่วงโซ่ค้าปลีก เพื่อให้การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว ผ่าน digital factoring platform เบื้องต้น มีการอนุมัติสินเชื่อแก่ SMEs แล้วมากกว่า 1 พันราย โดย 70% เป็นผู้ที่ไม่เคยเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำมาก่อน

“สำหรับมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ มีความคืบหน้าไปพอสมควร เนื่องจากเป็นมาตรการใหม่ ลูกหนี้จึงอยู่ในช่วงของการทำความเข้าใจในรายละเอียด กฎระเบียบ และวิธีการปฏิบัติ โดยกลุ่มที่ให้ความสนใจเข้าโครงการ อาทิ ธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ และอสังหาฯให้เช่า กระจายอยู่ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งธนาคารพาณิชย์ต่างๆคาดว่า จะมีผู้เข้าโครงการเพิ่มขึ้นอีกมากในเร็วๆนี้” นางสาวรัชดา กล่าว

ขณะเดียวกันรองโฆษกฯได้เปิดเผยว่า ในภาพรวมรัฐบาลได้เร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจประเทศ ครอบคลุมการส่งออก การลงทุนจากภาครัฐที่เน้นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนจากต่างประเทศ และการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งรวมถึงการดูแลผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยพร้อมไปกับการรักษาระดับการจ้างงาน การช่วยเหลือนักศึกษาจบใหม่ให้มีงานทำ

Back to top button