สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ก.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ก.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนจะออกมาแข็งแกร่ง โดยนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างคึกคักก่อนที่ธนาคารรายใหญ่ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกนและโกลด์แมน แซคส์ จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,996.18 จุด เพิ่มขึ้น 126.02 จุด หรือ +0.36% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,384.63 จุด เพิ่มขึ้น 15.08 จุด หรือ +0.35% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,733.24 จุด เพิ่มขึ้น 31.32 จุด หรือ +0.21%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่โดยได้แรงหนุนจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นทั้งกระดาน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแต่หุ้นกลุ่มเดินทางปรับตัวลงสวนทางตลาดโดยถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาซึ่งกลายเป็นสายพันธุ์หลัก

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 460.83 จุด เพิ่มขึ้น 3.16 จุด หรือ +0.69%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,559.25 จุด เพิ่มขึ้น 29.83 จุด หรือ +0.46%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,790.51 จุด เพิ่มขึ้น 102.58 จุด หรือ +0.65% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,125.42 จุด เพิ่มขึ้น 3.54 จุด หรือ +0.05%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มประกัน, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มเฮลธ์แคร์ แต่ความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในอังกฤษยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด ซึ่งยังคงส่งผลถ่วงหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,125.42 จุด เพิ่มขึ้น 3.54 จุด หรือ +0.05%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะไวรัสสายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก นอกจากนี้ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 74.10 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 75.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ 1,805.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.5 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 26.239 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 27.3 ดอลลาร์ หรือ 2.49% ปิดที่ 1,123 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 47.30 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 2,859.30 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังมีรายงานว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงพุ่งขึ้นก็ตาม

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.13% แตะที่ 92.2596 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9154 ฟรังก์ จากระดับ 0.9142 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2465 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2455 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 110.33 เยน จากระดับ 110.71 เยน

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1857 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1876 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3874 ดอลลาร์ จากระดับ  1.3889 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7473 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7491 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button