TTA พุ่ง 3% โบรกคาด “เรือ Mermaid-ปุ๋ยเวียดนาม” หนุนกำไรปี 64 แตะ 927 ลบ.

TTA ปิดเช้าพุ่ง 3% แตะ 15.20บาท “บล.ฟินันเซีย” มองว่าธุรกิจเรือนอกชายฝั่ง Mermaid จะเริ่มสร้างกำไรครึ่งปีหลัง เนื่องจากมีงานส่งมอบเป็นจำนวนมาก และธุรกิจปุ๋ยเวียดนามเติบโตขึ้นจากการเพาะปลูกในช่วง “ไฮซีซั่น” ดันกำไรปี 2564 แตะ 927 ล้านบาท แนะ “ซื้อ” เป้า 18 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ก.ค. 64) ราคาหุ้นบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ปิดตลาดเช้า อยู่ที่ระดับ 15.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 2.70% โดยทำจุดสูงสุดที่ 15.30 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 14.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อ 331.49 ล้านบาท

โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประมาณการกำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 ที่เคยคาดการณ์ไว้อยู่ที่ 242.4 ล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะต่ำเกินไป โดยธุรกิจ Shipping น่าจะดีกว่าที่คาดการณ์มาก เพราะว่าค่าระวางเรือเทกองในตลาด ช่วงไตรมาส 2/2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 24,261 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน เพิ่มขึ้นสูงถึง 53.5% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 365.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนับว่าสูงเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้มาก ประกอบกับธุรกิจเรือเช่าของ TTA ที่มีผลขาดทุนในไตรมาส 1/2564 เพราะทำสัญญาเช่าล่วงหน้า ซึ่งปรับขึ้นไม่ทันกับ Spot Rate โดยคาดการณ์ว่าจะดีขึ้นและหักล้างผลขาดทุนในไตรมาสก่อนได้

ส่วนธุรกิจอื่นยังเชื่อว่าจะเป็นไปตามประมาณการเดิม คือ ธุรกิจบริการนอกชายฝั่งของ Mermaid ยังมีผลขาดทุนแต่ขาดทุนลดลง ก่อนจะเริ่มสร้างกำไรในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 เพราะมีงานจำนวนมากที่ถึงกำหนดส่งมอบในช่วงครึ่งปีหลัง

สำหรับ ธุรกิจปุ๋ยในเวียดนามมีกำไรดีขึ้น เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการเพาะปลูก โดยฝ่ายวิจัยคาดการณ์รายได้รวมอยู่ที่ 4672.4 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 35.5% จากไตรมาสก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 58.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีธุรกิจ Shipping เป็นหลักและคาดการณ์ว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 180.6% จากไตรมาสก่อนหน้า (กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 203% จากไตรมาสก่อนหน้า) และฟื้นตัวจากการขาดทุน 257.4 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 2/2563

อย่างไรก็ตาม หากประมาณการเป็นไปตามคาดไว้กำไรปกติงวดครึ่งปีแรก 2564 จะเป็น 762.1 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 716.4 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกของ 2563 และคิดเป็น 84% ของกำไรทั้งปีที่คาดการณ์ไว้ อยู่ที่ 927 ล้านบาท

ทั้งนี้ ค่าระวางเรือเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคมยังปรับขึ้น 6.4% จากเดือนก่อนหน้าและสูงกว่าค่าเฉลี่ยในไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 22.2% และมีแนวโน้มว่าจะปรับสูงขึ้นจนถึงปลายปี

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยจะทบทวนประมาณการหลังประกาศผลประกอบการและการประชุมของนักวิเคราะห์กลางเดือนสิงหาคมนี้ ราคาหุ้นที่ปรับลงจะเปิดโอกาสในการลงทุนอีกครั้งโดยราคาเป้าหมายอยู่ที่ 18 บาท (PBV 1.8 เท่า เพิ่มขึ้น +1.5SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 16 ปี) มีโอกาสปรับขึ้น

Back to top button