JMART แรลลี่ 6 วันพุ่ง 21% จับตาผลงานโตปีละ 50% โบรกแนะ “เก็งกำไร” เป้า 51 บ.

JMART แรลลี่ยาว 6 วันพุ่ง 21% จับตาผลงานโต 50% ยาว 3 ปี โบรกชี้เพิ่มช่องทางธุรกิจ อาทิ เหรียญ JFIN Coin ซึ่งจะมีการใช้ในกลุ่ม BTS, ช่องทางจำหน่ายสินค้า, สื่อโฆษณา, ขนส่ง แนะ “เก็งกำไร” ชูเป้า 51 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (1 ก.ย.2564) ราคาหุ้น บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ณ เวลา 15.55 น. อยู่ที่ระดับ 40.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น 5.23% โดยทำจุดสูงสุดที่ 40.25 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 37.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.40 พันล้านบาท

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART เปิดเผยผ่านรายการ ข่าวหุ้นเจาะตลาด วันนี้ (1 ก.ย.64) เกี่ยวกับการผนึกกำลังรวมกับกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นผลของการลงทุนในครั้งนี้ตั้งแต่ช่วงปี 2565 เป็นต้นไป

โดยบริษัทมองว่านี่เป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากเม็ดเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาทนั้น จะนำไปลงทุนในบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการเติบโตสม่ำเสมอที่ระดับ 30 – 40% ทุกปีติดต่อกัน 6 ปี และปีนี้มีโอกาสจะทำ ออลไทม์ไฮ ต่อเนื่อง ดังนั้นจึงตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปี JMT จะมุ่งสู่การเป็นเบอร์ 1 ของ AMC อย่างแน่นอน

ส่วนบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER หลังจากได้เงินระดมทุนมาราว 1 หมื่นล้านบาทแล้ว ในช่วงปี 2565 บริษัทเตรียมสปินออฟ บริษัท เอส จี แคปปิตอล จำกัด (SGC) ซึ่งคาดว่าจะทำไฟลิ่งและยื่นขาย IPO ได้ในช่วง พ.ค.ปี 2565 ซึ่งจะได้รับเงินระดมทุนอีกหลายพันล้านบาท ซึ่งรวมๆ แล้วจะอยู่ที่ราว 2 หมื่นล้านบาท ทำให้มีการวางเป้าหมายสู่การเป็นเบอร์ 1 ภายใน 5 ปีต่อนี้

ดังนั้น จากการเติบโตของทั้ง JMT และ SINGER และบริษัทอื่นในเครือ จะเป็นตัวส่งเสริมให้ JMART ในฐานะบริษัทแม่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต

เราตั้งเป้าหมายระยะสั้นว่าจะต้องเติบโตปีละ 50% ติดต่อกัน 3 ปี ส่วนระยะยาวคาดว่าจะสร้างภาพ J CURVE ซึ่งเป็นการเติบโตแบบสูงชันนายอดิศักดิ์ กล่าว

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (1 ก.ย.2564) โดยประเมิน Synergy Benefit ที่คาดจะเกิดขึ้นหลังการมีกลุ่ม BTS เป็นพันธมิตร นอกเหนือจากเรื่องการลด DE ratio และต้นทุนทางการเงินที่จะลดลง อาทิ Demand ที่จะเกิดขึ้นในเหรียญ JFIN Coin เนื่องจากจะมีการนำมาใช้ในกลุ่ม BTS อีกทั้งช่องทางการขายสินค้าร่วมกัน ทั้งผ่านช่องทางแบบดั้งเดิมของ JMART และช่องทางออนไลน์ รวมถึงสื่อโฆษณา (VGI) และการขนส่งสินค้า (KEX) ที่สามารถใช้ร่วมกัน เป็นต้น ทั้งนี้ราคาเป้าพื้นฐานจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานล่าสุดยังไม่ได้รวมประเด็นเรื่องโอกาสในการเติบโตจาก Synergy Benefit และผลของ Dilution Effect

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยแนะนำ “เก็งกำไร” JMART ราคาเป้าหมาย 51 บาท โดยให้แนวรับ 37.50 บาท ส่วนแนวต้าน 38.50 – 40 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 45 บาท Stop Loss 34 บาท

 

Back to top button