FORTH ดีด 8% โบรกฯชี้กำไร Q4 แตะ 220 ลบ. รับรู้รายได้โบกี้การรถไฟ-แบตเตอรี่ EV หนุน

FORTH พุ่ง 8% โบรกฯชี้กำไร Q4 แตะ 220 ลบ. รับรู้รายได้โบกี้การรถไฟ-งานแผงวงจรแบตเตอรี่ EV หนุน แนะนำ “ซื้อ” เป้า 25.50 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (1 ธ.ค. 2564) ราคาหุ้นบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH ณ เวลา 10:31 น. อยู่ที่ระดับ 21.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท หรือ 8.04% โดยทำจุดสูงสุดที่ 21.70 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 19.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 133.14 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (29 พ.ย. 2564) ว่า ธุรกิจของ FORTH แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม (1) EMS business จัดหาและประกอบ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (2) Enterprise solution รับงานโครงการ จัดหา จัดจ้างและวางระบบต่างๆ (3) Smart Service ธุรกิจตู้เติมเงินบุญเติมและตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ ตู้เต่าบินเป็น Robotic Cafe มีเครื่องดื่มชงสดกว่า 100 เมนูราคาเฉลี่ย 30 บาทต่อ แก้ว ใช้พื้นที่ราว 1 ตร.ม. เงินลงทุนต่อตู้ไม่เกิน 3 แสนบาท ยอดขายเฉลี่ย 50 แก้ว ต่อวันโดยบริษัทเริ่มกลับมาเร่งการขยายจุดบริการตู้เต่าบินอีกครั้งหลังแก้ปัญหาการ ติดตั้งเรียบร้อยและตั้งเป้าหมายวาง 10,000 ตู้ในปี 2565

โดยทางฝ่ายวิจัยมองตู้เต่าบินจะเป็น New S-Curve ของ FORTH จากการที่ตู้ใช้พื้นที่น้อย เงินลงทุน ต่ำและยอดขายต่อวันใกล้เคียงกับร้านกาแฟขนาดเล็ก-กลาง สามารถเร่งขยาย จำนวนตู้เต่าบินผ่านตัวแทนขายของบุญเติมที่มีกว่าแสนสามหมื่นตู้ทั่วประเทศ ทำให้การขยายจุดบริการและการเติบโตน่าจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้บริษัทฯ ยังรับงานประกอบแผงวงจรในแบตเตอรี่รถ EV จากลูกค้า Global brand รายหนึ่งตั้งแต่ไตรมาส 2/2564

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยคาดกำไรไตรมาส 4 อยู่ที่ 220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 46% จากไตรมาสก่อน ซึ่งได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้งานโบกี้การรถไฟมูลค่า 798 ล้านบาท และงานแผงวงจรแบตเตอรี่รถ EV ซึ่งคาดกำไรปี 2564 จะอยู่ที่ 757 ล้านบาท เติบโต 72% จากงวดเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งคาดกำไรปี 2565 อยู่ที่ 1,033 ล้านบาท เติบโต 36.50% จากงวดเดียวกันของปีก่อน อิงสมมติฐานการวางตู้ เพิ่ม 15 ตู้ต่อวัน และการรับรู้รายได้จากลูกค้ารถ EV เต็มปี

ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท อิงค่า P/E ที่ 24 เท่า ปี 2565 ค่า EPS หนุนโดย (1) การเพิ่มจุดบริการตู้เต่าบิน และ (2) การรับงานชิ้นส่วนรถ EV ที่เป็น Mega trend และมีการเติบโตสูง ประเมินกำไรปี 2564- 2566 เติบโตเฉลี่ย (CAGR) 48% ต่อปี

Back to top button