LPN วิ่งแรง 4% นิวไฮรอบ 7 เดือน จับตาปรับแผนธุรกิจ ปั๊มยอดขายปีนี้ 1.3 หมื่นลบ.

LPN วิ่งแรง 4% นิวไฮรอบ 7 เดือน จับตาปรับแผนธุรกิจใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 เล็งเปิดตัว 16 โครงการใหม่ปีนี้ ปั๊มยอดขาย 1.3 หมื่นลบ. ตั้งเป้าปี 69 รายได้ไม่ต่ำกว่า 1.6 หมื่นลบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN ล่าสุด ณ เวลา 10:21 น. อยู่ที่ 5.25 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 3.96% สูงสุดที่ 5.30 บาท ต่ำสุดที่ 5.10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 62.99 ล้านบาท

ทั้งนี้ราคาหุ้น LPN ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 5.25 บาท เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2564 หลังนายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ LPN เปิดเผยว่า บริษัทปรับโครงสร้างภายในและปรับแผนยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2564 ด้วยการปรับเปลี่ยนมาใช้แผน 5 ปี (ปี 2565-2569) เป้าหมายสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 1.6 หมื่นล้านบาทภายในปี 2569 ด้วยการวางแผนการพัฒนาโครงการใหม่ตั้งแต่ปี 2565-2569 จำนวนไม่น้อยกว่า 70 โครงการ มูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท ยอดขายรวมสะสม 5 ปี ไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท

โดยภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตทั้งด้านรายได้ กำไร ผ่านการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพโดยการใช้ข้อมูล (Big Data) มาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า (Customer Insight) เพื่อการพัฒนาทั้งบ้านพักอาศัย และอาคารชุดพักอาศัย ให้มีฟังก์ชันการใช้งาน ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าในทุกมิติให้เป็นที่พักอาศัยภายใต้แนวคิด “น่าอยู่” (Livable Home) ในระดับราคาที่เหมาะสม (Affordable Price) ต่อยอดจากแนวคิด “ชุมชนน่าอยู่” เพื่อให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยเหมาะสมกับการขยายกลุ่มลูกค้าไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ (Young Generation)

ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ บริษัทได้มีการเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร รวมไปถึงการปรับแนวคิดในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน (Digital Transform)  เพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัวในการตัดสินใจ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่าย และต้นทุนในการดำเนินงาน ยกระดับบริหารประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร

สำหรับปี 2565 บริษัทมีเป้าหมายยอดขายในปี 2565 ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับยอดขายที่ 8.9 พันล้านบาทในปี 2564 โดยจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่ารวม 1.1 หมื่นล้านบาท เป็นโครงการอาคารชุดพักอาศัย 5 โครงการ มูลค่า 7 พันล้านบาท เน้นความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กระจายไปในทำเลต่างๆ และโครงการบ้านพักอาศัยระดับราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท จำนวน 10 โครงการ มูลค่า 3.3 พันล้านบาท และโครงการบ้านพักอาศัยราคาเกิน 10 ล้านบาท 1 โครงการ มูลค่า 700 ล้านบาท โดยมีงบลงทุนซื้อที่ดิน 4 พันล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในปี 2565-2566

Back to top button