SVI วิ่ง 5% ลุ้นยอดขายปี 65 แตะ 2.43 หมื่นลบ. โบรกอัพกำไรอีก 20% สะท้อนธุรกิจหลักแกร่ง

SVI วิ่ง 5% ลุ้นยอดขายปี 65 แตะ 2.43 หมื่นลบ. โบรกอัพกำไรขึ้นจากเดิมอีก 20% เพื่อสะท้อนถึงการปรับสมมติฐานยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (22 ก.พ. 2565) ราคาหุ้นบริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ณ เวลา 10:39 น. อยู่ที่ระดับ 9.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 5.38% โดยทำจุดสูงสุดที่ 10.40 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 9.15 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 521.86 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (22 ก.พ. 2565) ว่าจากอุปสงค์ที่่แข็งแกร่งและการเข้าซื้อกิจการ Tohoku Solution Co., Ltd เสร็จเรียบร้อย ทำให้ทางฝ่ายวิจัยคาดว่ายอดขายของ SVI จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปี 2565 ซึ่งบริษัทฯ มีการตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 750 ล้านดอลลาร์ฯ (หรือประมาณ 2.43 หมื่นล้านบาท) หลังจากจากที่ยอดขายทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2564 อยู่ที่ 544 ล้านดอลลาร์ฯ (หรือประมาณ 1.76 หมื่นล้านบาท)

ทั้งนี้ SVI มีแบ็คล็อกอยู่ประมาณ 600 ล้านดอลลาร์ฯ (หรือประมาณ 1.94 หมื่นล้านบาท) อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยจึงปรับเพิ่มประมาณการยอดขายปี 2565 – 2566 ขึ้นจากเดิม 25% เป็น 748 ล้านดอลลาร์ฯ (หรือประมาณ 2.42 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 38% จากงวดเดียวกันของปีก่อนในปี 2565 และ 852 ล้านดอลลาร์ฯ (หรือประมาณ 2.76 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 14% ในปี 2566

นอกจากนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปี 2565 ไว้ที่ประมาณ 9.50 – 10.00% เนื่องจาก (1) สามารถประหยัดต้นทุนได้ประมาณ 1 – 2% หลังจากที่เข้าไปซื้อกิจการ Tohoku Solution Co., Ltd (2) Product mix ดีขึ้น และ (3) สามารถส่งผ่านต้นทุนวัตถุดิบไปให้ลูกค้าได้ โดยบริษัทฯ คาดว่าจะส่งผ่านต้นทุนได้ประมาณ 100 – 200 ล้านบาทต่อไตรมาสในไตรมาส 1/2565 – ไตรมาส 2/2565

ผลดังกล่าวทำให้ทางฝ่ายวิจัยจึงปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2565 – 2566 เป็น 9.80% เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าของบริษัทฯ และปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 – 2566 ขึ้นจากเดิมอีก 20% เพื่อสะท้อนถึงการปรับสมมติฐานยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น โดยคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ SVI จะเพิ่มขึ้น 9% ในปี 2565 และ 16% ในปี 2566

อย่างไรก็ดีจากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/2565 – ไตรมาส 2/2565 และอัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มเพิ่มขั้นจากการส่งผ่านต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้นไปที่ลูกค้า ทางฝ่ายวิจัยจึงคาดว่ากำไรของ SVI น่าจะเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนในไตรมาส 1/2565 – ไตรมาส 2/2565

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 จากเดิม 8.50 บาท เป็น 9.40 บาท อิงจากค่า PER ที่ 14.00 เท่า ทั้งนี้เนื่องจากเหลืออัพไซด์จำกัดจากราคาปิดล่าสุด จึงยังคงคำแนะนำ “ถือ” และมองว่าเป็นโอกาสให้เข้าเก็งกำไรได้จากแนวโน้มการเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนของผลประกอบการในไตรมาส 1/2565 และไตรมาส 2/2565

Back to top button