เปิดโผ 10 หุ้น SET100 วิ่งสวนตลาดฯ ไม่หวั่นสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” ปะทุ!

เปิดโผ 10 หุ้น SET100 วิ่งสวนตลาดฯ ไม่หวั่นสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” ปะทุ! BH นำทีมบวก 4% หลังโชว์งบปี 64 กำไรโตเด่นแตะ 1.21 พันลบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้าวันนี้(24 ก.พ.2565) อยู่ที่ระดับ 1,669.44 จุด ลบ. 1237.01 จุด หรือ 1.59% มูลค่าซื้อขายที่ 7.50 หมื่นล้านบาท โดยดัชนีอ่อนตัวลงแรงตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดหุ้นสหรัฐ ตอบรับความกังวลความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่เพิ่มความร้อนแรงขึ้น และล่าสุดรัสเซียเริ่มเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครนแล้ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั่วโลก

ขณะเดียวกันกลุ่มหุ้น SET100 มีแรงเทขายเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังมีหุ้นที่ปรับตัวสวนภาวะตลาดติดลบได้ 10 ตัว ประกอบด้วย BH, PTTEP, BCP, TOP, TVO, BDMS, PTT, STARK, ESSO, SPRC ดังตารางประกอบ

สำหรับบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH นำทีมบวกแรงมากสุด โดยหุ้นปิดตลาดภาคเช้าวันนี้อยู่ที่ระดับ 157.00 บาท บวก 6.50 บาท หรือ 4.32% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 862.89 ล้านบาท หลังประกาศงบปี 2565 มีกำไรสุทธิ 1,215.67 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,204.13 ล้านบาท อีกทั้งสถานการณ์โควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ยังหนุนการใช้บริการ รวมถึงแนวโน้มคนไข้ต่างชาติกลับเข้ามาจากการผ่อนคลายมาตรการเปิดรับผู้เดินทางจากต่างประเทศ

ขณะที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ มองว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคตอบรับความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนเป็นปัจจัยหลัก หลังจากรัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหาร ขณะที่ยูเครนประกาศภาวะฉุกเฉิน ทำให้สินทร้พย์เสี่ยงถูกเทขาย และราคาน้ำมันเร่งตัวขึ้นเหนือ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ส่วนสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในประเทศวันนี้ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งทำสถิติสูงสุด  แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยกดดันตลาดมากนัก เพราะรัฐไม่ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ และอาการผู้ป่วยโอมิครอนไม่ได้รุนแรง

ขณะที่แนวโน้มในช่วงบ่าย คาดว่าตลาดน่าจะยังลบคล้ายช่วงเช้า ให้แนวรับแรกที่ 1,670 จุด แนวรับถัด 1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด แนะติดตามสถานการณ์รัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยหุ้นที่เล่นได้ คือ ลุ่มพลังงาน กลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก โรงพยาบาล และหุ้นปันผลดี

ด้านนายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ -รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลดลงโดยยังคงมีปัจจัยกดดันจากสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างยูเครนและรัสเซีย

ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนบางบริษัทออกมาต่ำกว่าที่คาด และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 40,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับมาตรการที่จะออกมาควบคุมเข้มขึ้น ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา

นอกจากนี้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นปรับตัวขึ้นตาม Sentiment สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน หลังจากล่าสุดรัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันดิบถีบตัวสูงขึ้นทันที โดยรัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก

ทั้งนี้ หลังรัสเซียประกาศเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารในภูมิภาคดอนบาสทางภาคตะวันออกของประเทศยูเครนและเกิดเหตุระเบิดขึ้นในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดีดตัวขึ้น 3.03% แตะที่ 99.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐพุ่งขึ้น 3.52% แตะที่ 95.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาก๊าซธรรมชาติ พุ่งขึ้น 2.33%  โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,680 จุด และ แนวรับถัดไปที่ 1,675 จุด ขณะที่แนวต้านให้ไว้ที่ 1,690-1,693 จุด

Back to top button