SMPC วิ่ง 3% โบรกชี้กำไร Q1 โต 73% ส่งออกถังแก๊สแกร่ง อัพเป้า 17 บ.

SMPC วิ่ง 3% โบรกชี้กำไรปกติ Q1 โต 73% แตะ 198 ลบ. อานิสงส์ยอดส่งออกถังแก๊สที่เติบโตแข็งแกร่ง อัพเป้า 17 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (3 พ.ค. 2565) ราคาหุ้นบริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC ณ เวลา 11:48 น. อยู่ที่ระดับ 15.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 3.42% โดยทำจุดสูงสุดที่ 15.60 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 15.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56.60 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (27 เม.ย.2565) โดยประเมินกำไรปกติไตรมาส 1/2565 จะอยู่ที่ 198 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 10% จากไตรมาสก่อน โดยกำไรจะยังคงอยู่ในเกณฑ์สูงต่อเนื่องจากไตรมาส 4/2564 ที่มีกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ ขณะที่จะเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนได้อย่างมาก

โดยเป็นผลจาก 1) ประเมินรายได้ของ SMPC จะอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน โดยได้ผลบวกจากยอดส่งออกถังแก๊สที่เติบโตแข็งแกร่ง โดยกระทรวงพาณิชย์ได้รายงานมูลค่าส่งออกถังแก๊สในไตรมาส 1/2565 เติบโตสูงเพิ่มขึ้น 32% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน จากตลาดสหรัฐและภูมิภาคแอฟริกาที่ยังเติบโตดีต่อเนื่อง ขณะที่ SMPC จะมีการเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนมากกว่า จากขยายพื้นที่จัดเก็บสินค้าอีก 3 แสนใบ เพื่อลดปัญหาคอขวดในการขนส่งสินค้าทางเรือ ช่วยลดอุปสรรคในการส่งออกสินค้า

2) GPM จะอยู่ที่ 23% ดีขึ้นจากไตรมาส 1/2564 ที่ 21.50% จาก u-rate ที่เพิ่มขึ้น และยังทรงตัวจากไตรมาส 4/2564 ส่วนกำไรที่ลดลงจากไตรมาสก่อน มาจาก SG&A ที่กลับมาเพิ่มขึ้นจากในช่วงไตรมาส 4/2564 มีการปรับปรุงรายการค่าใช้จ่ายระหว่างปี

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2565 ขึ้น 7% เป็น 754 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยปรับรายได้ขึ้นจากเดิม 6% เป็น 5.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดย SMPC ตั้งเป้ ายอดขายถังแก๊สที่ 8 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 16% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการขยายลูกค้าใหม่ในแอฟริกาและอเมริกาเหนือ รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการขายถังขนาดใหญ่มากขึ้น ซึ่งจะมี GPM ที่สูงกว่าถังแก๊สขนาดเล็ก รวมทั้งการขยายพื้นที่เก็บสินค้า และประเมินว่าปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์จะทยอยดีขึ้น ทำให้ช่วยลดอุปสรรคการส่งออก

นอกจากนั้นจะยังได้ผลบวกจากเงินบาทที่อ่อนค่า เนื่องจาก SMPC มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออก สูงถึง 95% ด้านค่าใช้ จ่าย SG&A/Sales จะลดลงได้เล็กน้อย จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านขนส่งที่มีโอกาสลดลงจากปี 2564 ได้โดยจะเน้นการขนส่ง FOB เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ทางฝ่ายวิจัยยังคง GPM ที่ 23.30% ลดลงจากปี 2564 ที่ 24% จากต้นทุนเหล็กที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยได้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 17 บาท อิงปี 2565 เทรดบนค่า PER ที่ 12 เท่า จากเดิม 14.50 บาท อิงปี 2565 ค่า PER ที่ 11 เท่า

Back to top button