ITTHI ร่วง 5% ต่ำไอพีโอ! โบรกแนะหาจังหวะสอย ชี้กำไรปีนี้โต 59%

ITTHI ร่วง 5% หลุดราคาไอพีโอ 3 บาท โบรกแนะหาจังหวะสอย มองกำไรปีนี้แตะ 31 ล้านบาท เติบโต 59% จากปีก่อน เคาะราคาเป้าหมาย 4.30 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 มี.ค. 66) ราคาหุ้น บริษัท อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITTHI ล่าสุด ณ เวลา 11.09 น. อยู่ที่ระดับ 2.90 บาท ลบไป 0.16 บาท หรือลงไป 5.23% สูงสุดที่ระดับ 3.02 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.86 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 96.08 ล้านบาท

สำหรับหุ้น ITTHI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันที่ 2 และพบว่า ราคาหุ้นปรับตัวลงไปต่ำกว่าราคาเสนอขาย IPO ที่ระดับ 3 บาท/หุ้น ทั้งนี้อาจเป็นการเทขายของนักลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงหลังจากวานนี้เปิดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก และราคาหุ้นสามารถปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 5.90 บาท แต่หลังจากนั้นมีแรงขายออกมาจนมาปิดตลาดที่ระดับ 3.06 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับราคาเสนอขายไอพีโอ

อย่างไรก็ตาม ทางโบรกเกอร์ยังประเมินผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดย บล.เอเอสแอล ประเมินมูลค่าหุ้น ITTHI เหมาะสมสิ้นปี 66 เท่ากับ 4.30 บาท อิง PE ที่ 38 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 5 ปี ของ L&E และ TMI โดยมองว่าเหมาะสม แม้ว่าขนาดของธุรกิจที่ยังอยู่ในระดับ middle เมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้งในแง่ของรายได้และสินทรัพย์ แต่ก็เป็นโอกาสเติบโตเหนือกว่าคู่แข่งในอนาคต โดยแนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิเฉลี่ย CAGR ในปี 65-68 คาดว่าจะสูงถึง 53.3% เพิ่มความน่าสนใจในเชิง Valuation ของ ITTHI

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการปี 65-68 ประเมินกำไรสุทธิ สำหรับในปี 65 เท่ากับ 19 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 27.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน), ต่อมาในปี 66 อยู่ที่ 31 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 59.2% จากงวดเดียวของปีก่อน), ถัดมาในปี 67 อยู่ที่ 40 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น32.3% จากงวดเดียวของปีก่อน) และในปี 68 อยู่ที่ 44 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 10.0% จากงวดเดียวของปีก่อน) คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยแบบ CAGR ที่ 53.3% ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 64 โดยเติบโตทั้ง 2 ธุรกิจ

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ITTHI เป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่างที่ได้รับความไว้ใจจากลูกค้าโดยเฉพาะโครงการพัฒนาอสังหาฯ และมีแบรนด์ชั้นนำเป็น Partner เติบโตตามธุรกิจอสังหาฯ ที่มีแผนเปิดโครงการใหม่เร่งขึ้นในปี 66 ลูกค้าหลักคือ AP และ SIRI คาดกำไรปี 66 คาดเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน จากรายได้งานโครงการที่เติบโต และ Margin ขยายตัว ประเมินราคาเป้าหมายที่ 3.20 บาท

Back to top button