SVR บวกแรง 13% ส่งซิกปีนี้รายได้นิวไฮ จ่อเปิด 3 โครงการรวม 1.62 พันล้าน

SVR บวกแรง 13% ส่งซิกปีนี้รายได้นิวไฮ จ่อเปิด 3 โครงการใหม่รวม 1.62 พันล้าน ในช่วงครึ่งปีหลัง ตั้งแต่ไตรมาส 3/66 เป็นต้นไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้( 2 พ.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR  ล่าสุด ณ เวลา 11:08 น. อยู่ที่ระดับ 1.76 บาท บวก 0.21 บาท หรือ 13.55% สูงสุดที่ระดับ 1.79 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.62 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 44.89 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส SVR เปิดเผยว่า ด้วยจุดแข็งการพัฒนาโครงการแบบหมุนเร็ว (Quick Turnover) ก่อสร้างเร็ว ขายเร็ว  ส่งมอบเร็ว และความคุ้มค่า ( Premium Economy) ส่งผลให้บริษัทก้าวสู่การเป็นผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบ Premium Economy ภายใต้แนวคิด “Best Smart Living” รายแรกของประเทศของกลุ่ม Real Demand และตั้งเป้าอัตราการเติบโตในปี 2566 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ภายใต้แนวโน้มสร้างสถิติสูงสุดใหม่ (new high) จากปี 2565 ที่มีรายได้รวม 726.15 ล้านบาท ตอกย้ำถึงการเติบโตสู่ระดับ High Growth อย่างยั่งยืนในอนาคต

สำหรับการเติบโตดังกล่าวมาจากแผนการขับเคลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,621 ล้านบาท ประกอบด้วย1. โครงการสิวารมณ์ วิลเลจ (บนทำเลบางกรวย-ไทรน้อย) เป็นโครงการบ้านแฝดและทาวน์เฮาส์ จำนวน 242 ยูนิต บนพื้นที่ 24 ไร่ 3 งาน 39 ตารางวา มูลค่าโครงการ 691 ล้านบาท ระดับราคาขายที่ 2-3.5 ล้านบาทต่อยูนิต โดยจะเปิดขาย (Pre Sale) ในช่วงไตรมาส 3/2566 นี้ และจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 เป็นต้นไป

2. โครงการ สิวารมณ์ ปาร์ค (บนทำเลซอยประชาอุทิศ 76) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 91 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 22 ไร่ 3 งาน 78 ตารางวา มูลค่าโครงการ 528 ล้านบาท ระดับราคาขายที่ประมาณ 5 ล้านบาทต่อยูนิต โดยคาดว่าจะเปิดขายในช่วงไตรมาส 3/2566 และเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4/256  และ3. โครงการสิวารมณ์ ไฮด์ (บนทำเลวงแหวนกาญจนาภิเษก) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว ขนาด 100 ตารางวา ภายใต้แบรนด์ใหม่ “สิวารมณ์ ไฮด์” จำนวน 29 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 11 ไร่ 3 งาน 80.5 ตารางวา มูลค่าโครงการ 401 ล้านบาท ระดับราคาขายที่ประมาณ 12 ล้านบาทต่อยูนิต เป็นการขยายเซกเมนต์ไปยังผู้อยู่อาศัยระดับบน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ของบริษัท โดยคาดว่าจะเปิดขายในปลายไตรมาส 4/2566 และจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ จากแผนการเปิดตัว 3 โครงการใหม่ดังกล่าว จะส่งผลเชิงบวกต่อรายได้ที่จะเริ่มทยอยเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังทันที เนื่องจากทุกโครงการของ SVR เป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย ซึ่งสอดรับกับนโยบาย “หมุนเร็ว-ขายเร็ว สู่การรับรู้รายได้ที่รวดเร็ว” ขณะเดียวกันบริษัทยังมีโครงการที่รับรู้รายได้จากโครงการต่อเนื่องเข้ามาในปี 2566 ด้วย ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการเติบโตของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

Back to top button