ORI คาดยอดขายสิ้นปีทะลุเป้ามาที่ 5.2-5.3 พันลบ.ศึกษาเพิ่มสภาพคล่องหุ้น

ORI คาดยอดขายสิ้นปีทะลุเป้ามาที่ 5.2-5.3 พันลบ.ศึกษาเพิ่มสภาพคล่องหุ้น


นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัทคาดยอดขายพรีเซลในสิ้นปีนี้จะทะลุเป้าหมาย 5 พันล้านบาท มาอยู่ที่ 5.2-5.3 พันล้านบาท หลังจากที่ปัจจุบันบริษัททำยอดขายพรีเซลได้แล้วที่ 5.1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการใหม่ทั้งหมดที่เปิดในปีนี้ 9 โครงการ มูลค่ารวม 8 พันล้านบาท ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยมียอดจองเฉลี่ย 75% ในแต่ละโครงการ ทำให้ยอดขายพรีเซลในปีนี้เพิ่มขึ้นสูง

ขณะที่รายได้ในปีนี้ยังมั่นใจทำได้ตามเป้า 2 พันล้านบาท หลังจากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้แล้ว 1.35 พันล้านบาท โดยจะมีการทยอยโอนในช่วงไตรมาส 4/58 ราว 700 ล้านบาท จากยอดขายรอโอน(Backlog) ที่มีอยู่ไนปัจจุบัน 6.2 พันล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยโอนไปถึงปี 60

สำหรับแผนงานในปีหน้าบริษัทตั้งเป้ายอดขายพรีเซลที่ 7 พันล้านบาท โดยในปีหน้าบริษัทมีแผนเปิด 8-10 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 1 หมื่นล้านบาท โดยเน้นเป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด ในกรุงเทพฯ นนทบุรี ชลบุรี และสมุทรปราการ อย่างไรก็ตามบริษัทวางแผนการเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 1/59 เบื้องต้น 3 โครงการ มูลค่า 3 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตามการเปิดโครงการเพิ่มขึ้นในปีหน้าส่งผลให้งบซื้อที่ดินของบริษัทในปีหน้าได้ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท จากเดิม 2 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีที่ดินที่รองรับการเปิดโครงการใหม่ในปี 59 แล้ว 50% ส่วนรายได้ในปี 59 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 4 พันล้านบาท สูงขึ้นจากปีนี้ที่ 2 พันล้านบาท โดยในช่วงต้นปีจะมีการโอนคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท

นายพีระพงศ์ กล่าวว่า หลังเข้าร่วมงานไทยแลนด์ โฟกัส มีนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ 4-5 ราย ได้แก่ นักลงทุนจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และฮ่องกง และนักทุนสถาบันในประเทศ 2 ราย ให้ความสนใจลงทุนในหุ้นของบริษัท หลังจากเห็นการเติบโตของบริษัทในเรื่องของรายได้และกำไร ประกอบกับการขยายตัวของการเปิดโครงการและการสร้างยอดขายที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้นักลงทุนสถาบันเกิดความสนใจ แต่นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวยังติดปัญหาหุ้น ORI ที่ยังมีสภาพคล่องน้อย ซึ่งส่งผลให้บริษัทจะต้องพิจารณาการเพิ่มสภาพคล่องอีกรอบหลังพ้น Silent Period โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้มีแผนการลดพาร์ แต่ทางตลาดหลักทรัพย์ฯไม่อนุมัติให้ทำการลดพาร์ ทำให้บริษัทพับแผนดังกล่าวไป

Back to top button