ฝรั่งจะกลับมา?

เผลอแป๊บเดียว! ฝรั่งตัวดีก็สาดหุ้นไทยไปแล้วกว่าแสนล้าน ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้เดี๊ยนเกิดอาการช็อกซีนีม่าไปชั่วคราว


เผลอแป๊บเดียว! ฝรั่งตัวดีก็สาดหุ้นไทยไปแล้วกว่าแสนล้าน ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้เดี๊ยนเกิดอาการช็อกซีนีม่าไปชั่วคราว เพราะไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ยังเห็นพ่อหัวทองซื้อหุ้นไทยอยู่เลย แต่มาวันนี้ยอดขายทะลุขึ้นเกินแสนล้านบาท จนกลายเป็นสถานการณ์ที่ทำให้หลายคนเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยจะซึมลงแบบนี้ไปอีกนาน เพราะในมุมการเติบโตของจีดีพีเราสู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้เลยนะซี

ผนวกกับตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของหุ้น AI จึงทำให้นักลงทุนทั่วโลกเริ่มเทขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น “หุ้น คริปโต” ล้วนทิ้งตัวลงแรงกันทั้งนั้น ส่วนทองคำก็มีลักษณะทรงตัว เพราะได้ปรับตัวลงมาก่อนหน้านี้แล้ว “โมนิก้า” ถึงมองภาพการลงทุนต่อจากนี้อาจไม่ราบรื่นเหมือนที่คาดหวัง หลังเงินไหลออกจากตลาดหุ้นเรื่อย ๆ ไงล่ะคะ

ประเด็นดังกล่าวนำมาสู่คำถามที่ว่า การที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,272.17 จุด บวกไป 2.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.04 หมื่นล้านบาท เหมาะต่อการลงทุนหรือยัง? หลังข้อมูลต่าง ๆ ชี้ชัดลงไปว่า หุ้นไทยลงมากเกินไป! โดยเฉพาะในมุมของอัตราเงินปันผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยที่ให้ในระดับ 3.67% ก็ยังไม่จูงใจมากพอให้ฝรั่งกลับมาซื้อหุ้นไทยแบบนี้ เดี๊ยนรู้สึกเจ็บแปลบทุกครั้งที่เห็นหุ้นไทยลงแรงเจ้าค่ะ

ถึงกระนั้นถ้าดูยอดขายในแต่ะปีของฝรั่งหัวทองที่อยู่ในระดับแสนล้านเป็นจุดตั้งต้น หลังจากนั้นมักจะกลับมาซื้อหุ้นไทยในระยะเวลาสั้น ๆ อีกรอบ “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยจะไม่ลงลึกไปกว่าที่เป็นอยู่ หรือมองในมุมที่แย่สุด ๆ คงไม่หลุดระดับ 1,200 จุด เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นการเทรดบนพีอี 15 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เรียกว่าเซฟโซนจุดหนึ่งของตลาดหุ้นไทย อีฉันถึงต้องออกมาย้ำหัวหมุดบ่อย ๆ นะจ๊ะ

เหมือนกับในรายของ TTB ที่วันนี้เทรดบน PE 8.50 เท่า ก็เป็นหุ้นที่อีฉันชื่นชอบมายาวนาน เพราะเมื่อดูจากความสามารถในการทำกำไรเป็นธงนำ ราคาหุ้นก็ควรยืนเหนือระดับ 2 บาทนานแล้ว แต่วันนี้หุ้นยังยืนอยู่ที่ระดับ 1.89 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.50 พันล้านบาท จึงมองเป็นหุ้นที่อีฉันชอบเม้าท์ถึงทุกครั้งที่หุ้นมาใกล้จุดเด้งเที่ยวก่อนที่บริเวณ 1.80 บาทไงล่ะคะ

ส่วนรายที่มาเรื่อย ๆ ตามผลงานที่ดีขึ้น “โมนิก้า” ขอยกให้หุ้น SPRC เป็นพระเอกของการเล่นในรอบ 1 เดือน ซึ่งเป็นการขึ้นสวนตลาดหุ้นที่ทรุดลงหนัก  ผนวกกับมีการประเมินว่า ปีหน้าจะเป็นหนึ่งในหุ้นที่โตดีสุด ๆ อีฉันเลยเข้าใจเหตุผลที่หุ้นสามารถยืนปิดที่ระดับ 6.20 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 279 ล้านบาทอย่างมั่นคง ซึ่งจะทำให้ราคาเป้าหมาย 9 บาทไม่ไกลเกินเอี้อมพะยะค่ะ

ส่วนม้านอกสายตาอย่าง ONSENS ก็เป็นหุ้นที่อีฉันค่อนข้างสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะการเติบโตของบริษัทจะมาจากการขยายสาขา และที่เป็นไฮไลต์คือ ในปี 70 จะโตด้วยคอนเซ็ปต์ Social Wellness Hotel & Spa ซึ่งเป็นการผสมผสานทั้งโรงแรม สปา และพื้นที่เช่าเข้าด้วยกัน และจะทำให้สงครามโรงนวดระอุขึ้นอย่างแน่นอน อีฉันถึงเชื่อว่า  การยืนปิดที่ระดับ 1.24 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 11.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35 ล้านบาทเป็นการเก็งล่วงหน้าจ้า!

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” เลือกที่จะเม้าท์ถึงหุ้น MMM เพื่อให้เห็นแรงซื้อที่เริ่มกลับเข้ามาบ้าง ล้วนเป็นผลมาจากราคาหุ้นลงลึกเกินไป ผนวกกับกำไรก็ออกมาโตตามคาด บรรดาเสือปืนไวจึงกลับเข้ามาลุยกันอีกรอบ ส่งผลให้หุ้นพุ่งขึ้นไปถึง 4 บาท ก่อนจะย่อตัวลงมาปิดที่ 3.64 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 0.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 7.65 เท่าแบบนี้..เขาเรียกว่า เทสความพร้อมก่อนวิ่งอะป่าว?..อิอิอิ

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button