TOP บวก 3% โบรกเชียร์ “ซื้อ” เป้าสูง 62 บาท ลุ้นไตรมาส 3 ฟื้น รับค่าการกลั่นพุ่ง

TOP บวก 3% โบรกเชียร์ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายสูงสุด 62 บาท หลังคาดผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากค่าการกลั่นปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากส่วนต่างน้ำมันดีเซล และน้ำมันอากาศยาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ส.ค. 66) ราคาหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ล่าสุด ณ เวลา 11:53 น. อยู่ที่ระดับ 54.25 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 3.33% สูงสุดที่ระดับ 54.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 53.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 738.76 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุว่า มีมุมมองบวกต่อผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ของ TOP เนื่องจากค่าการกลั่นปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากส่วนต่างน้ำมันดีเซล และน้ำมันอากาศยานปรับตัวขึ้น 76% จากไตรมาสก่อน และ 91% จากไตรมาสก่อน อีกทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น 18.5% จากไตรมาสก่อน สู่ 83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ช่วยหนุนกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบ จึงแนะนำ “ซื้อ”  ราคาเป้าหมาย 60.50 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุ โดยประเมินว่า TOP จะเห็นการฟื้นตัวของกำไรในครึ่งหลังของปี 2566 โดยมีปัจจัยผลักดันจาก 1) crack spread ที่ดีขึ้นจากอุปสงค์ gasoline ที่สูงขึ้นในฤดูกาลขับรถของ US และปริมาณสินค้าคงคลังของผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปที่อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี 2) การรับรู้ stock gain ที่เป็นไปได้ตามราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นจากการลดกาลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มOPEC+ และ 3) บริษัทน่าจะได้ประโยชน์จากตลาดอะโรเมติกส์ที่ตึงตัวมากขึ้น ซึ่งจะช่วยชดเชยผลกระทบจากตลาด HDPE ที่ทรงตัวและตลาด PP ที่มีอุปทานสูงขึ้นได้

ขณะที่ประมาณการกำไรปี 2566 อยู่ที่ 1.30 หมื่นล้านบาท และกำไรปี 2567 อยู่ที่ 1.41 หมื่นล้านบาท ลดลงจาก 3.27 หมื่นล้านบาทในปี 2565 โดยคาดว่า 1) Market GRM จะอ่อนตัวลงในช่วง 5.9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ6.1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จาก 11.9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในปี 2565  2) อัตราการใช้กาลังการกลั่นจะอยู่ที่ 105% ลดลงจาก 107% ในปี 2022และ 3) กาไรที่ลดลงจากธุรกิจโรงไฟฟ้าจากการขายหุ้น GPSC ไปบางส่วนในปี 2565 คงคาแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 60.00 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุ โดยประเมินหุ้น TOP แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้น (GRM) ในไตรมาส 3/2566 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น Spread ของน้ำมันดีเซลและเครื่องบิน ปรับดีขึ้นประมาณ 10-15% และช่วงไตรมาส 4/2566 เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวน่าจะทำให้มีความต้องการน้ำมันในกลุ่ม Middle distillate เพิ่มขึ้น และ ได้ประโยชน์จาก crude premium ที่ยังอยู่ในระดับต่ำทั้งนี้ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2566 ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท โดยถ้าคิดเฉพาะ Core Operation ครึ่งแรกของปี 2566 จะอยู่ราว 9.8 พันล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 56% ของประมาณการ คงราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 62 บาท

Back to top button