STA ทรุดต่อ 6% เซ่นกำไร Q2 หด 90% เหตุรายได้ยางธรรมชาติ-ถุงมือวูบ

STA ทรุดต่อ 6% เซ่นกำไร Q2 หด 90% เหลือ 110 ล้านบาท แรงกดดันจากรายได้ยางธรรมชาติ-ถุงมือยางวูบ พร้อมกับต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 298 ล้านบาท บล.ทรีนีตี้ ยังคงแนะนำ “ถือ” เพราะปริมาณการขายมี Downside Risk จากกลุ่มผู้ผลิตยางล้อที่อยู่ในช่วง Destocking และมีความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ส.ค. 66)  บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ล่าสุด ณ เวลา 11:37 น. อยู่ที่ระดับ 13.00 บาท ลบไป 0.90 บาท ลงไป 6.47% สูงสุดที่ระดับ 13.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 12.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 150.96 ล้านบาท

โดย STA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566

สำหรับไตรมาส 2/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 110.00 ล้านบาท ลดลง 90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,142.13 ล้านบาท สาเหตุเป็นผลมาจากบริษัทมีรายได้รวม 21,227.00 ล้านบาท ลดลง 24.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน 27,973.10 ล้านบาท โดยลดลงจากรายได้ธุรกิจยางธรรมชาติเป็นหลักลดลง 23.90% ในขณะที่รายได้จากการขายธุรกิจถุงมือยางสามารถปรับตัวลดลง 25.10%

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า STA รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 110 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 298 ล้านบาท และปรับตัวลดลง 61.8% จากไตรมาสก่อน และ 90.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน จากรายได้รวมที่ 2.12 หมื่นล้านบาทปรับตัวลดลง 13% จากไตรมาสก่อน และ 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน

ขณะที่รายได้จากการขายในครึ่งแรกปี 66 อยู่ที่ 4.56 หมื่นล้านบาท ปรับตัวลดลง 18.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน และคิดเป็น 45% ของที่เราคาดการณ์ที่ 1.01 แสนล้านบาท และกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 66 อยู่ที่ 398 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 85% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน คิดเป็นเพียง 11.1% ของที่เราคาดการณ์ที่ 3.58 พันล้านบาทจากยอดขายกลุ่มยางธรรมชาติที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2/66 จากกลุ่มลูกค้าผู้ผลิตยางล้อมีการชะลอการสั่งยางธรรมชาติเนื่องจากอยู่ในช่วง Destocking และเริ่มมีความกังวลต่อเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวลง รวมทั้ง Gross Margin ที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ต่ำกว่า 10%ส่งผลให้มีโอกาสปรับคาดการณ์ปี 66 ลงหลังการประชุมนักวิเคราะห์

ดังนั้นยังคงแนะนำ “ถือ” โดยที่ ASP และปริมาณการขาย มี Downside Risk จากกลุ่มผู้ผลิตยางล้อที่อยู่ในช่วง Destocking และมีความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

Back to top button