JAS พุ่งแรง 7% ลุ้นปันผล 2.25 บ. จ่อปิดดีลขายหุ้น 3BB-JASIF ภายใน Q3-Q4 นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(25 ส.ค.66) ราคาหุ้นบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ณ เวลา 10:17 น. อยู่ที่ระดับ 1.95 บาท บวก 0.13 บาท ราคาสูงสุด 1.95 บาท ราคาต่ำสุด 1.86 บาท หรือ 7.14%  ด้วยมูลค่าซื้อขาย 44.06 ล้านบาท คาดนักลงทุนเก็งกำไรด้รับปันผลระหว่างกาล 2.25 บาทต่อหุ้น หลังปิดดีลขายหุ้น 3BB-JASIF กว่า 3.2 หมื่นล้านบาท ภายในไตรมาส 3-4 นี้

ด้านนายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ประธานอนุกรรมการด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า คณะอนุกรรมการทั้ง 3 ชุด ได้แก่ คณะอนุกรรมการด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง คณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย และคณะอนุกรรมการด้านเทคโนโลยี ได้ส่งผลสรุปการทำโฟกัสกรุ๊ปกรณีการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) หรือ 3BB พร้อมข้อเสนอแนะ ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ทั้งหมดแล้ว

ส่วนคณะอนุกรรมการด้านเศรษฐศาสตร์ (กลุ่มนักวิชาการ) คาดว่าจะส่งภายในปลายเดือนนี้ หรืออย่างช้าต้นเดือนกันยายนนี้ หลังจากทำโฟกัสกรุ๊ปเสร็จแล้วเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.)

“คณะอนุกรรมการทั้ง 4 ด้าน ทำโฟกัสกรุ๊ปเสร็จทั้งหมดแล้ว คาดว่าจะส่งให้กสทช.รวบรวมข้อมูลส่งบอร์ดกสทช.ได้ภายในเร็ว ๆ นี้ เพื่อบรรจุเป็นวาระให้บอร์ดลงมติต่อไป” นายแพทย์ประวิทย์ กล่าว

ด้านนายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คาดว่า บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS จะประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล ภายหลังจากบอร์ดกสทช.อนุมัติให้ AIS เข้าซื้อหุ้น 3BB และ JASIF มูลค่ากว่า 3.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนก.ย. (Q3/2566) หรืออย่างช้าเดือน ต.ค.นี้ (Q4/2566) คล้ายกับกรณีของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH จ่ายให้กับบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM หลังจากอินทัชขายหุ้นไทยคมให้กับบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF

ทั้งนี้ จากการประเมินเบื้องต้น JAS จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้สูงถึง 2.25 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท ภายหลังจากชำระหนี้กว่า 1 หมื่นล้านบาท และภาษีแล้ว

นอกจากนี้ ภายหลังจากได้เงินจากการขายหุ้นเข้ามา 3.2 หมื่นล้านบาท จะเป็นการช่วยปลดล็อกเครื่องหมาย “C” เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นจะกลับมาเป็นบวก วอลุ่มซื้อขายก็จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถใช้วงเงินมาร์จิ้นได้ โดยแนะนำ “ถือ” หุ้น JAS ราคาเป้าหมาย 2.25 บาท ขณะที่วานนี้ราคาปิดที่ 1.82 บาท ลดลง 1.62% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 38 ล้านบาท

ส่วนผลประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ JASIF ได้อนุมัติการยกเลิกสัญญาประกันรายได้โดยแลกกับการต่ออายุสัญญาเช่าหลัก จะช่วยลดค่าเช่าของ JAS ในปี 2567-2568 ลงได้ 3.3-3.4 พันล้านบาท ซึ่งจะพลิกความสามารถในการทำกำไรของ JAS และฟื้นฟูกระแสเงินสดของบริษัท

โดยสรุปหนี้สินต่อเงินทุนสุทธิ (net D/E ratio) ของ JAS จะลดลงจาก 41.42 เท่า ในไตรมาส 2/2566 เป็น 4.74 เท่า ในช่วงไตรมาส 3/2566 ในขณะที่มูลค่าหุ้นของ JAS จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.9 เท่า ของทุนที่ชำระแล้ว จาก 0.15 เท่า ก่อนหน้านี้ขณะที่ JAS ระบุว่า การขายหุ้น 3BB และ JASIF มูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท จะมีกำไรประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มีมุมมอง “บวก” ต่อบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เกี่ยวกับพัฒนาการเชิงบวกทั้งดีลการเข้าซื้อกิจการ 3BB และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF บางส่วน และดีลความคืบหน้าจากการร่วมเป็นพันธมิตรคลื่น 700 MHz ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด หรือ NT มอง upside จากประเด็นผู้ถือหน่วย JASIF รับเงื่อนไขแก้สัญญาเช่าเป็นบวกอยู่ที่ราว 2.7 บาท/หุ้น จากราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 264 บาท/หุ้น มองการที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เห็นชอบให้ NT โอนกรรมสิทธิ์การใช้งานคลื่น 700 MHz

ทั้งนี้ มองประโยชน์ฝั่ง ADVANC มี 2 ส่วนหลัก คือ 1) การได้ประสิทธิภาพ 5G บนคลื่นความถี่ต่ำเพิ่มจากปัจจุบัน ที่ ADVANC มีคลื่น 700 MHz อยู่แล้ว 15MHz  และ 2) ใช้ทรัพยากรโทรคมนาคมที่มีอยู่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการให้ NT บางส่วนในขณะที่ฝั่ง NT จะได้ประโยชน์แง่การลงทุนผ่านการใช้ทรัพย์สิน และคลื่น 5G อื่น ๆ ของ ADVANC โดยในเชิงพื้นฐานยังคงให้น้ำหนักกำไรในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ที่มองว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก โดยโมเมนตัมกำไรปกติของไตรมาส 3/2566 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนตามอัตราค่าบริการรายเดือน (Blended ARPU) ทั้งมือถือและเน็ตบ้านที่จะฟื้นเต็มตัว กับต้นทุนค่าไฟฟ้าต่อหน่วยที่ปรับลดลงต่อ 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 6% จากไตรมาสก่อน ส่วนไตรมาส 4/2566 ซึ่งเข้าสู่ช่วง High season ของท่องเที่ยวและธุรกิจ  อย่างไรก็ตามยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ตามราคาเป้าหมายที่ 264 บาท/หุ้น

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แนะ “ซื้อ” หุ้นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ราคาเป้าหมาย 8.30 บาท หลังมติที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2566 เห็นชอบให้แก้ไขสัญญาฯ และผ่อนผันหยุดพักชำระค่าเช่าฯ

จากมติดังกล่าว ทำให้มองบวกต่อการฟื้นตัวของ JASIF เนื่องจากคลายความกังวลเรื่องการจ่ายค่าเช่าของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB (3BB) แต่ยังเหลือประเด็นที่ต้องติดตาม คือการพิจารณาของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เกี่ยวกับธุรกรรมบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ซื้อ TTTBB

ทั้งนี้ ความชัดเจนจะเกิดขึ้นภายในไตรมาส 4/2566 โดยเบื้องต้นสัญญาตามเงื่อนไขใหม่จะมีผลบังคับใช้ในเดือน ต.ค. 2566 จึงได้ปรับประมาณการรายได้และกำไรตามสัญญาเงื่อนไขใหม่ ทำให้ปี 2566 จ่ายเงินปันผลหน่วยละ 0.78 บาท (yield 11%) ส่วนปี 2567-2574 จ่ายเงินปันผลต่อปีหน่วยละ 0.60 บาท (yield เฉลี่ย 8.8%) และปี 2575-2581 จะจ่ายเงินปันผลต่อปีหน่วยล0.63 บาท (yield เฉลี่ย 9.2%) รวมทั้งประเมินราคาเป้าหมายปี 256 ที่ 8.30 บาท (ตามประมาณการสัญญาใหม่)

โดยปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากเดิม Trading Buy สำหรับ JASIF จากหมดความกังวลเรื่องการจ่ายค่าเช่าของ TTTBB และประมาณการเงินปันผลใหม่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี 9% สุดท้ายคือมีโอกาสเกิดอัพไซด์หากกองทุนฯ ต่อรองขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หลังเปลี่ยน Sponsor เป็น ADVANC