CKP วิ่งต่อ 5% โบรกแนะ “ซื้อ” อัพเป้าใหม่ 4.50 บาท ลุ้นกำไร Q4 โต 4 เท่าตัว

CKP บวกต่อ 5% ลุ้นกำไรหลักไตรมาส 4/66 โต 422% แตะ 457 ล้านบาท รับปริมาณผลิตไฟโรงงาน NN2 -ส่วนแบ่งกำไร XPCL เพิ่ม ฟากโบรกแนะนำ “ซื้อ” อัพราคาเป้าหมายใหม่ 4.50 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 ม.ค. 67) ราคาหุ้น บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ณ เวลา 11:32 น. อยู่ที่ระดับ 3.84 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 5.49% สูงสุดที่ระดับ 3.92 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.68 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 104.22 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันที่ 10 ม.ค. 67 ว่า ประเมินกำไรหลักในไตรมาส 4/2566 ของบริษัท CKP จะเพิ่มขึ้น 422% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 457 ล้านบาท มาจากปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญจากปีก่อน คือปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้นที่โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 (NN2)  โดยคาดการณ์ปริมาณการผลิตไฟฟ้า NN2 จะเพิ่มขึ้นถึง 607 กิกะวัตต์ (GWh) เติบโต 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 34% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี (XPCL) คาดการณ์ว่าจะยังคงเป็นเชิงบวกที่ 320 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 199% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ ยังมีการอัพไซด์จากเอลนิโญที่เปลี่ยนไปเป็นลานีน่า และต้นทุนก๊าซที่ลดลงสำหรับผู้ปลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ด้วยการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ โดยได้ปรับเพิ่มกำไรหลักในปีงบประมาณ 2566-2568 หลังจากการอัพเกรดปัจจัยด้านกำลังการผลิต NN2 เพิ่มขึ้นเป็น 31% ในปี 2566, เพิ่มขึ้นเป็น 33.5% ในปี 2567 และเพิ่มขึ้นเป็น 35.5% ในปี 2568 รวมถึงเพิ่มปัจจัยด้านกำลังการผลิต XPCL และสมมุติค่า Ft จะเพิ่มขึ้น เป็น 0.41 Bt/kWh ในปี 2567 และเพิ่มเป็น 0.3 ในปี 2568 และต้นทุนก๊าซสำหรับ SPP จะลดลง 8% ในปี 2567-2568

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CKP ปรับราคาเป้าหมายเป็น 4.50 บาท (จากเดิม 4.1 บาท) หลังจากการขาดทุนเพียงเล็กน้อยในไตรมาส 1/2567 ดีขึ้น โดยได้แรงหนุนจากระดับน้ำในเขื่อน NN2 ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 365 เมตร ณ สิ้นปี 2566 ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับการผลิตไฟฟ้าในช่วงหน้าแล้งของไตรมาส 1/2567 โดยการดำเนินงานหลักจะกลับมามีกำไรตั้งแต่ ไตรมาส 2/2567 เป็นต้นไป

Back to top button