GFC โตต่อเนื่อง งบ 66 “ออล์ไทม์ไฮ” ลุ้นปีมังกรลูกค้าเพิ่ม

GFC เผยงบการเงินปี 66 “ออล์ไทม์ไฮ” ตั้งเป้าปีมังกรคนใช้บริการเพิ่ม เตรียมความพร้อมสาขา รองรับลูกค้าต่างประเทศ


วันที่ 11 ม.ค. 2567 นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า  ธุรกิจการเจริญพันธุ์ หรือที่รู้จักว่า ธุรกิจช่วยเหลือผู้มีบุตรยากยังคงเป็นที่น่าจับตาในปี 2567 โดยในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้นตามเป้าที่วางไว้ และถือเป็นปีที่สามารถทำ “ออล์ไทม์ไฮ” ซึ่งการเติบนั้นเป็นไปตามภาวะสังคมที่มีคนอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไปต้องการที่จะมีบุตร และในนี้ก็ได้มีการตั้งเป้าไว้ว่าจะเติบโตประมาณ 40%

ขณะเดียวกันในปีนี้เป็นปีมะโรง หรือ เป็นปีที่มีความเชื่อว่าเป็นปีมังกร ก็คาดว่าจะทำให้คนที่อยากมีบุตรในปีนี้มีมากขึ้น อีกทั้งยังมีการส่งเสริมเรื่องของการมีบุตรของรัฐบาล ก็จะยิ่งทำให้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีลูกค้าเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ GFC ยังเดินเกมรุกด้วยการขยาย 2 สาขา ได้แก่ สาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 และสาขาอุบลราชธานี ที่จะเป็นศูนย์กลางของห้องปฏิบัติการธุรกิจเจริญพันธุ์ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้บริการคลินิกผู้ที่มีบุตรยาก แต่ยังไม่มีความพร้อมห้องปฏิบัติการ รวมถึงลูกค้าประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง สปป.ลาว เวียดนาม และกัมพูชา คาดว่าสามารถเปิดให้บริการ และรับรู้ได้ในช่วงในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

ทั้งนี้ GFC ประกอบธุรกิจให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากแบบครบวงจร โดยให้บริการ 5 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มให้บริการตรวจเบื้องต้นก่อนให้คำแนะนำหรือรักษา 2.การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี IUI 3.การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี ICSI 4.การให้บริการตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน NGS และ 5.การให้การแช่แข็งไข่และฝากไข่

นายกรพัส กล่าวว่า แม้เทรนด์การไม่มีบุตรจะเพิ่มมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันความต้องของผู้มีบุตรกับคนที่มีอายุมากขึ้นก็เพิ่มมากขึ้นไปด้วย ดังนั้นจึงไม่กระทบต่อการขยายการเติบโตของธุรกิจในอนาคตแต่อย่างใด  ขณะเดียวกันธุรกิจฝากไข่ กำลังกลายเป็นเทรนด์ของคนโสด และคนมีคู่ที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตรในเวลานี้ สามารถมีบุตรได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับ GFC เพราะเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง จากค่าบริการการรับฝากไข่

บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของรายได้ของ GFC ที่สูงขึ้นของสาขาพระราม 3 และพระราม 9 ซึ่งมีทิศทางการเติบโตโดดเด่น โดยแนะนำ “ซื้อ”บน P/E ที่ 28 เท่าในปี 2567 เป็น 16 บาท ตอนนี้อิงจาก P/E ที่ 34 เท่า 2567 เพื่อสะท้อนถึงการเติบโตของรายได้ ที่แข็งแกร่งในระยะยาวของ GFC จากการขยายสาขาอีก 2 แห่ง โดยประเมินกำไรสุทธิในปี2566-2568 ที่ 72 ล้านบาท , 103 ล้านบาท และ 133 ล้านบาท ตามลำดับ พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ขึ้นอีก 13%-45%

 บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดปี 2567 มีกำไรสุทธิที่ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากผลการเปิดสาขาใหม่ สุวรรณภูมิ-พระราม 9 และอุบลราชธานี ตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/2567 รวมถึงการนำเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ขยายห้อง LAB ที่เป็นมาตรฐานสากลจะทำให้มีลูกค้าต่างชาติเข้าขอรับบริการเป็นปีแรก พร้อมเคาะราคาเป้าหมายใหม่ที่ 12 บาท อิง PE เดิม 25 เท่า แนะนำ “ซื้อ”

Back to top button