WARRIX เด้ง 4% ลุ้นกำไรปี 66 แตะ 130 ล้าน รับยอดขาย-ขยายช่องทางเพิ่ม

WARRIX เด้ง 4% ลุ้นกำไรปี 66 แตะ 130 ล้านบาท รับยอดขายทั้งกลุ่มสินค้า License และ Non-Licensed รวมถึงขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่ม ประกอบกับคุมต้นทุนได้ดี โบรกแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 7.05 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 ม.ค. 67) ราคาหุ้น บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ WARRIX ณ เวลา 14:52 น. อยู่ที่ระดับ 5.50 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 3.77% สูงสุดที่ระดับ 5.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30.57 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์วันที่ 26 ม.ค. 67 ว่า คาดการณ์บริษัท WARRIX จะมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 57.5 ล้านบาท เติบโต 42.6% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยคาดการณ์รายได้จากการขายและบริการ อยู่ที่ 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.9% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 7.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตจากยอดขายทั้งกลุ่มสินค้า Licensed และ Non-Licensed

ประกอบกับในช่วงไตรมาส 4/66 เป็นช่วงไฮซีซั่นเนื่องจาก Event การแข่งขันฟุตบอลที่มักจะเกิดขึ้นช่วงครึ่งหลังของปี เช่น รายการ King’s Cup, FIFA Day, AFC World Cup รวมถึงการเพิ่มขึ้นของคาสั่งซื้อจากลูกค้าองค์กร โดยประเมินอัตรากำไรขั้นต้น (%GPM) ที่ระดับ 48.7% ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 49.1% จากไตรมาส 3/66 เนื่องจากความสามารถในการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังคาดการณ์รายได้ในปี 66 อยู่ที่ 1,231 ล้านบาท เติบโต 16% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากการเติบโตของยอดขายทั้งกลุ่มสินค้า License และ Non-Licensed เนื่องจากแบรนด์สินค้าของบริษัทเป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงการขยายช่องทางการขาย เช่น ช่องทาง Modern Trade ช่องทางออนไลน์ และหน้าร้านของบริษัท เป็นต้น ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้มากขึ้น ขณะที่ใช้สมมติฐาน %GPM ที่ระดับ 57.6% ปรับตัวสูงขึ้นจากปี 65 ที่ระดับ 46.3% เนื่องจากความสามารถในการควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น และการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) ส่งผลให้ประเมินกำไรสุทธิในปี 66 อยู่ที่ 130 ล้านบาท เติบโต 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ คาดการณ์รายได้ในปี 67 ราว 1,515 ล้านบาท เติบโต 23% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ปี 62-69 ราว 22% ต่อปี จากการเติบโตจากทุกช่องทางการจัดจำหน่าย และการเติบโตของยอดขายทุกกลุ่มสินค้าโดยเฉพาะสินค้า Life Style จากการเปิดหน้าร้านทั้งสาขา Siam Square, The Mall Bangkhae, The Mall Bangkapi ที่เปิด เมื่อช่วงปลายปี 66 ด้วยสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น %GPM ที่ระดับ 48.0% ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 66 ที่คาดการณ์ว่ามีกำไรขั้นต้น %GPM อยู่ที่ 47.6% โดยบริษัทจะเน้นขายสินค้าที่มี Margin สูงเพิ่มเติม เช่น เสื้อผ้า Life Style และเสื้อผ้าที่ทำร่วมกับศิลปิน

โดยคาดการณ์ค่าใช้จ่าย SG&A และ Total Sales อยู่ที่ 33.4% ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 65 จากความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ประกอบกับไม่มีการเพิ่มพนักงานเป็นจำนวนมากเหมือนในปี 66 ส่งผลให้คาดการณ์กำไรสุทธิอยู่ที่ 175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 67 อยู่ที่ 7.05 บาท

Back to top button