UNIQ ชนซิลลิ่ง ควง STECON วิ่ง 4% รับเงินค่าก่อสร้าง “สายสีแดง” มูลค่า 7.39 พันล้าน

UNIQ พุ่งชนซิลลิ่ง ควง STECON บวก 4 % หลัง UNIQ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าสมาชิกของกิจการร่วมค้า เอส ยู ได้รับเงินค่าก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญา 1 งานโยธา รวมมูลค่า 7,394.84 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 มิ.ย. 68) ราคาหุ้น บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ ณ เวลา 10:30 น. อยู่ที่ระดับ 2.90 บาท บวก 0.66 บาท หรือ 29.46% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 2.92 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 2.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.23 ล้านบาท

ด้าน บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 6.20 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 5.08% ราคาสูงสุดที่ 6.55 บาท ราคาต่ำสุดที่ 6.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 13.95 ล้านบาท

รับข่าวจากล่าสุด บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น หรือ UNIQ แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้ทราบว่าเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 68 ทาง UNIQ ในฐานะสมาชิกของกิจการร่วมค้า เอส ยู หรือ SU ได้รับเงินตาม สัญญาในงานก่อสร้างโครงการระบบรถไฟขานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญาที่ 1 งานโยธา สำหรับสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง เป็นจำนวนเงิน 7,394.84 ล้านบาท

ขณะที่ก่อนหน้าอ้างอิงแหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 รฟท.ได้ดำเนินการชำระเงินงวดงานให้แก่กิจการร่วมค้า ต้า เอส ยู (TA-SU Joint Venture) ซึ่งเป็นผู้รับจ้างในโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ – รังสิต (สัญญาที่ 1) เป็นจำนวนเงิน 7,324,375,612.69 บาท หลังกิจการร่วมค้า ต้า เอส ยู มีประเด็นพิพาทกับ รฟท. เกี่ยวกับจ้างในการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ – รังสิต (สัญญาที่ 1) จนนำเรื่องเข้าสู่อนุญาโตตุลาการ และศาลปกครอง

โดยศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้ รฟท. ต้องชำระค่าสินจ้างตามสัญญาและคำสั่งเปลี่ยนแปลงงาน (Variation Orders) พร้อมดอกเบี้ยและภาษี มูลค่ารวมตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ภายใน 60 วัน เนื่องจากศาลปฏิเสธคำร้องเพิกถอนคำชี้ขาดของ รฟท. และศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งคงคำตัดสินดังกล่าว ทำให้การชำระเงินงวดล่าสุดถือเป็นการดำเนินการตามคำชี้ขาดศาลและสัญญาที่เกี่ยวข้อง

การจ่ายของ รฟท.ให้กับ กิจการร่วมค้า ต้า เอส ยู ถือเป็นผลดีกับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งล่าสุดเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่คือ บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ

เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการค้าร่วมดังกล่าว โดย STECON ถือหุ้นในสัดส่วน 60% และ UNIQ ถือหุ้นในสัดส่วน 40% ก่อนเข้าไปรับงานก่อสร้างกับ รฟท. สำหรับโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ – รังสิต (งานโยธา สัญญาที่ 1) โดยครอบคลุมงานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ และศูนย์ซ่อมบำรุง

สัญญาดังกล่าวลงนามเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2556 ตามสัญญาเลขที่ กส.01/รฟฟ./2556 โดยโครงการมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 29,827 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และในส่วนของ STECON ตามสัดส่วนการถือหุ้นมีมูลค่าอยู่ที่ 17,896.20 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

 

Back to top button