MONO บวกต่อ 1% รับข่าวดีแพคเกจฟุตบอล รุกตลาดลาว-กัมพูชา โบรกอัพกำไรปีนี้แตะ 354 ล้านบาท

MONO บวกต่ออีก 1% เตรียมลุยตลาดลาวและกัมพูชา พร้อมเปิดตัวแพคเกจถ่ายทอดชมฟุตบอล ซีรีส์ และภาพยนต์ เอาใจลูกค้า AIS บล. ลิเบอเรเตอร์ ยังคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 2.69 บาทต่อหุ้น พร้อมปรับกำไรปี 68 ขึ้น 85.3% แตะ 354 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันวันนี้ (8 ก.ค. 68) ราคาหุ้นของ บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ณ เวลา 11.15 น. อยู่ที่ระดับ 1.75 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 1.16% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 1.77 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 55.00 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น MONO ราคาเป้าหมาย 2.69 บาทต่อหุ้น โดยปรับประมาณการกำไร และเป้าหมายขึ้น 85.50% โดยมองว่า บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดตัวแพคเกจราคาเร้าใจ แข่งขันช่องทางละเมิดลิขสิทธิ์ได้ แถมยังมี content มากกว่าคาด MONO รับรายได้ต่อหัวเท่าเดิม แต่ volume มีแนวโน้มสูงกว่าสมมติฐานเดิมของเรา +50%

ทั้งนี้ แพคเกจค่าบริการรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและ เอฟเอคัพ 6 ฤดูกาลที่ 299 บาท/ เดือน และ 2,999 บาท/ ปี ซึ่งหากเป็นลูกค้า AIS จะได้ราคาพิเศษเพียง 199 บาท/ เดือน และ 1,999 บาท/ ปี (=166.58 บาท/ เดือน) ซึ่งราคาตั้งต้น 299 บาทนี้ถูกว่าราคาแรกของทรูวิชั่น (599 บาท/เดือน) -50.0% และ -66.8%) หากเป็นลูกค้า AIS ซึ่งแพคเกจนี้ถือว่าดีกว่าสมมติของ IFA ซึ่งเราใช้ในการทำประมาณการที่ไม่เกิน 400 บาท/เดือนอีกด้วย

อย่างไรก็ตามยิ่งไปกว่านั้นแพคเกจยังได้รับชมฟุตบอลไทยลีก และซีรีส์-ภาพยนต์เข้าไปอีกด้วย ดังนั้นเราเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค เป้าขยับขึ้น ขณะที่ MONO รับต่อหัวเท่าเดิม กลุ่มผู้บริหารเชื่อว่าด้วยราคาที่แข่งขันได้กับช่องทางละเมิดลิขสิทธิ์ และการตลาดที่พร้อม มีโอกาสที่สมาชิกจะไปแตะ 5 ล้านคนได้

ขณะที่ใน สปป.ลาว และ กัมพูชา จะทำตลาดในลำดับถัดไป คาดจะได้สมาชิกรวม 1 ล้านคน ซึ่งแม้ค่าบริการจะต่ำจากเดิม แต่ JAS ยืนยันว่าจ้าง MONO ถ่ายทอดสดในราคาเดิม (50 บาท/สมาชิก/เดือน) โดยเปิดพาร์ทเนอร์ นอกจาก AIS เป็นผู้สนับสนุนหลักปีละ 1,000 ลบ. ก็ยังมี ลีโอ, แพลนบี, PPTV, สยามสปอร์ต และจะทยอยเปิดตัวเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้ MONO จะทำตลาดได้ง่ายขึ้น และลดต้นทุนการตลาดอีกด้วย

ดังนั้น ปรับกำไรขึ้น ความเสี่ยงการเงินลดลง เรามองว่าเป้าก่อนหน้าของผู้บริหารที่ 3 ล้านคน เริ่มมีความเป็นไปได้สูงขึ้นมาก เราจึงปรับสมมติฐานจาก 2 เป็น 3 ล้านคน (ถือเป็น Base case) ส่งให้กำไรปี 68 ถูกปรับขึ้น 85.3% แตะ 354 ล้านบาท ขณะที่ปี 69 กำไรถูกปรับขึ้น 90.8% แตะ 832 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วน net IBD/E จะผ่อนคลายลงจาก 5.3 เท่าปีก่อนเหลือ 2.3 เท่าปีนี้ (เดิมคาดไว้ที่ 2.7 เท่า)

Back to top button