
BCPG บวกคึก 5% โชว์ยอดผลิตไฟ Q2 เพิ่ม รับไฮซีซั่น “โรงไฟฟ้าพลังน้ำลาว” หนุน
BCPG วิ่งแรง 5% แย้มปริมาณการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศในไตรมาส 2/68 ปรับเพิ่มขึ้นรับไฮซีซั่นโรงไฟฟ้าพลังน้ำในลาว และการผลิตไฟของโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดใช้บริการคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือยังเติบโต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 ก.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ณ เวลา 12:17 น. อยู่ที่ระดับ 6.80 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 4.62% สูงสุดที่ระดับ 6.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.55 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 88.80 ล้านบาท
นายก้องเกียรติ กาญจนพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงินและบัญชี BCPG เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของกลุ่มบริษัท ณ ไตรมาส 2/2568 รวมอยู่ที่ 1,662.8 กิกะวัตต์-ชั่วโมง แบ่งเป็น ประเทศไทย ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตรวม 82.2 กิกะวัตต์-ชั่วโมง และโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 2.5 กิกะวัตต์-ชั่วโมง, สปป. ลาว ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ กำลังการผลิต 96.3 กิกะวัตต์-ชั่วโมง, ฟิลิปปินส์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 8.7 กิกะวัตต์-ชั่วโมง และสหรัฐอเมริกา ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ กำลังการผลิตรวม 1,473.1 กิกะวัตต์-ชั่วโมง
ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตไฟฟ้าไตรมาส 2/2568 ลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1,826.9 เมกะวัตต์ (MW) โดยมีสาเหตุหลักมาจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ และโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในไทยลดลง รวมถึงการจำหน่ายกิจการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น จำนวน 9 โครงการ กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 89.7 เมกะวัตต์ เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ทั้งนี้เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักจากการเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาว และปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
สำหรับในประเทศไทย ณ ไตรมาส 2/2568 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าความเข้มของแสงลดลง อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลมเพิ่มขึ้น เนื่องจากความเร็วลมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 พบว่าปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มในประเทศไทยลดลง จากค่าความเข้มของแสงที่ลดลง เนื่องจากมีปริมาณฝนที่ตกมากในช่วงไตรมาส 2/2568 และปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทยลดลง จากความเร็วลมที่ลดลง
ขณะที่ในสปป. ลาว ไตรมาส 2/2568 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากการเข้าสู่ฤดูฝนเร็วกว่าปกติ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้น และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน พบว่าปริมาณการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูกาลตามปกติ ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมประเทศฟิลิปปินส์ ณ ไตรมาส 2/2568 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย สาเหตุหลักมาจากความเร็วลมที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนปริมาณการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมลดลง จากการออกนอกฤดูกาลตามปกติ
นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมในสหรัฐฯ ในไตรมาส 2/2568 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการปิดซ่อมตามแผนที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้า Liberty เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ส่งผลให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าลดลง ทั้งนี้เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน พบว่าปริมาณการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนถือหุ้นของโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากโรงไฟฟ้า CCE มีปริมาณการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากจำนวนวันปิดซ่อมบำรุงตามแผนที่ลดลงจากไตรมาสก่อน
ด้านธุรกิจคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือ ในไตรมาส 2/2568 มีปริมาณการใช้ถังเก็บน้ำมันอยู่ที่ 716.5 ล้านลิตร ขณะที่ปริมาณการใช้ท่ออยู่ที่ 336.5 ล้านลิตร ตามลำดับ โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการแก้ไขสัญญาการเช่าถังบางส่วนและการใช้บริการขนถ่ายน้ำมันของลูกค้าเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน ปริมาณการใช้ถังเก็บน้ำมันเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เนื่องจากไตรมาส 1/2568 มีการปรับปรุงถังน้ำมันเพื่อรองรับการใช้งานจำนวน 1 ถังในเดือนมกราคม 2568 และกลับมาเริ่มใช้งานตามปกติตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ส่งผลให้สามารถรองรับการใช้งานได้เต็มไตรมาสในไตรมาส 2/2568 และปริมาณการใช้ท่อเพิ่มขึ้น จากการใช้บริการขนถ่ายน้ำมันของลูกค้าเพิ่มขึ้น