
KKP เด้ง 4% รับกำไรไตรมาส 3 สูงกว่าคาด โบรกชี้ Q4 โตต่อ
KKP บวก 4% หลังรายงานกำไรไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 1.67 พันล้านบาท เติบโต 28% สูงกว่าคาดการณ์ตลาด 33% รับแรงหนุนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 50% ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน-ตั้งสำรองลดลง โบรกชี้ไตรมาส 4 ยังโตต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (20 ต.ค.68) ราคาหุ้น ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP ณ เวลา 14:13 น. อยู่ที่ระดับ 64.75 บาท บวก 2.50 บาท หรือ 4.02% สูงสุดที่ระดับ 65.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 62.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 260.27 ล้านบาท

บล.กรุงศรี ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึง KKP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 1.67 พันล้านบาท ดีกว่าฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ 24% และตลาดคาดการณ์ 33% โดยกำไรเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 19% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ 1.) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 33% จากไตรมาสก่อนหน้า หลังการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุน (FVTPL) และรายได้ค่าธรรมเนียม-บริการ
2.) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ลดลง 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากขาดทุนรถยึดอยู่ที่ 554 ล้านบาท ลดลงจาก 1.19 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/67 และลดลง 594 ล้านบาทในไตรมาส 2/68 จากจำนวนขายรถยึดลดลง และ 3.) ค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ดีขึ้น และ Gross NPL ลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนทำให้ NPL Ratio อยู่ที่ 4.30% เท่ากับไตรมาส 2/68
สำหรับสินเชื่อรวมหดตัว 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 6.0% เมื่อเทียบกับต้นปีถึงปัจจุบัน การลดลงจากไตรมาสก่อนจากสินเชื่อธุรกิจ SME และรายย่อย ส่วนกำไรสุทธิ 9 เดือน ปี 68 คิดเป็น 83% ของกำไรสุทธิทั้งปีนี้ คาดการณ์ที่ 5.01 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 4/68 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังขาดทุนรถยึดลดลง ขณะที่ จะปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อน หลังการลดลงของสินเชื่อรวมเพราะธนาคารเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ อีกทั้ง การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) เหตุไตรมาส 4 เป็นช่วงที่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนักวิเคราะห์จะทบทวนประมาณการคำแนะนำและราคาเป้าหมายอีกครั้งหลังจากการประชุมนักวิเคราะห์ในบ่ายวันนี้ 20 ต.ค.68 ซึ่งภาพรวมคงมองเห็นพัฒนาการทางด้านคุณภาพสินทรัพย์ในเชิงบวก และคาดธนาคารสามารถรักษาระดับการจ่ายเงินปันผล dividend yield ที่ 6-7% ต่อปี