OR ดีดบวก 2% โบรกอัพเป้าใหม่ 16.10 บาท จับตากำไร Q4 พีกสุด-รุก “บัดเจทโฮเทล” ปิดดีลปีนี้

OR เด้งกลับ 2% หลังรุกธุรกิจโรงแรมราคาประหยัดปิดดีลภายในไตรมาส 4 ปีนี้ เริ่มก่อสร้างได้ช่วงครึ่งแรกปี 69 ขณะที่ทิศทางผลประกอบการไตรมาส 4/68 พีกสุดของปี ทั้งธุรกิจ Mobility และ Lifestyle โบรกเกอร์ แนะ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 16.10 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 พ.ย.68) ราคาหุ้น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ณ เวลา 10:23 น. อยู่ที่ระดับ 13.10 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 1.55% สูงสุดที่ระดับ 13.10 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 12.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18.51 ล้านบาท

นางสาววิไลวรรณ กาญจนกันติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารการเงิน OR เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการลงทุนธุรกิจโรงแรมราคาประหยัด (Budget Hotel) เพื่อรองรับนักเดินทาง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร ซึ่งดีลใกล้จบแล้ว คาดว่าภายในไตรมาส 4/2568 จะเห็นข่าวความร่วมมือระหว่าง OR กับพันธมิตรว่าเป็นค่ายใด จากนั้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2569 ก็จะลงมือก่อสร้างในสถานที่ที่เลือกไว้แล้ว

ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารระบุว่า โออาร์จะร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่มีประสบการณ์ โรงแรมจะเน้นกลุ่มโรงแรมราคาประหยัด โดยมีห้องพัก 40-79 ห้องต่อสาขา (สถานีบริหาร) ในราคาห้องพักคืนละ 750-900 บาท

สำหรับทิศทางผลประกอบการในไตรมาส 4/2568 นางสาววิไลวรรณ คาดว่า จะยังเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี ทั้งกลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle จากมาตรการส่งเสริมของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวดีมีคืน คนละครึ่งพลัส ที่จะช่วยสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะส่งผลดีกับธุรกิจของบริษัท แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัว แต่เศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านยังเติบโตสูงกว่าประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกัมพูชาที่กระทบต่อผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บริษัทดูตามสถานการณ์และปรับกลยุทธ์ให้สามารถประคองตัวไปได้

ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ คาดอยู่ที่ 33 ล้านคน ต่ำกว่าปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 35.5 ล้านคน เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง แต่ยอดขายน้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A-1) ยังเติบโต ดังนั้นปัจจัยหนุนจากภาครัฐยังส่งผลดีต่อการเติบโตต่อธุรกิจของบริษัท

อย่างไรก็ตาม ประเมินทิศทางราคาน้ำมันในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ จะไม่ผันผวนมากนัก ประเมินราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบเฉลี่ยทั้งปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 66-80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ปัจจุบันที่อยู่ระดับ 65-66 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล คาดเฉลี่ยทั้งปีนี้ที่ระดับ 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ดังนั้นในระดับราคาดังกล่าว เป็นราคาที่ไม่ผันผวนมากนัก จึงคาดว่าจะไม่มีผลจาก Stock gain/loss มากนัก รวมทั้งไตรมาส 4/2568 อัตรามาร์จิ้นยังเติบโต ใกล้เคียงกับไตรมาส 3 ที่ผ่านมาซึ่งอยู่ในระดับที่ดี

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2568 ของ OR ยังแข็งแกร่ง คาดปริมาณขายน้ำมันเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามฤดูกาล ซึ่งหนุนทั้งการขับขี่และน้ำมัน Jet แต่ด้วยฐานสูงปีก่อน ทำให้คาดลดลงจากไตรมาส 4/2567 แนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 4/2568 แข็งแกร่งตามกำไรขั้นต้นต่อลิตรอยู่ระดับดีใกล้เคียงกับไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ช่วงกองทุนน้ำมันเป็นผลดี ฤดูกาลของธุรกิจ Lifestyle และดอกเบี้ยจ่ายลดลงตามอัตราดอกเบี้ยตลาดและการคืนเงินกู้ยืม จึงปรับประมาณการกำไรปี 2568-2569 เพิ่มขึ้นตามผลงาน 9 เดือนของปีนี้ ที่เติบโตสูงโดยเฉพาะจากกำไรขั้นต้นต่อลิตรที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้คาดกำไรปีนี้เติบโต 45% จากปีก่อน และปีหน้าเติบโต 4%

ดังนั้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ปรับขึ้นเป็น 16.10 บาท ตามประมาณการกำไรที่ปรับขึ้น ส่งผลให้คาดจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นด้วยเป็น 0.55 บาท D/P 4% มองว่า OR มีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง แนวโน้มกำไรขั้นต้นต่อลิตรของธุรกิจ Mobility เพิ่มขึ้น และการเริ่มเปิดสาขา KFC จะช่วยเพิ่มกำไรได้ทันที

Back to top button