
3 หุ้นกลุ่ม “วัสดุก่อสร้าง” วิ่งคึก! รับรัฐเตรียมแพ็กเกจใหญ่ฟื้นฟูน้ำท่วมใต้
GLOBAL, DOHOME, HMPRO วิ่งคึก! รับรัฐบาลเร่งอัดมาตรการช่วยเหลือ–เยียวยา–ฟื้นฟูผู้ประสบภัยภาคใต้ หนุนความต้องการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยพุ่ง โบรกฯ ส่งซิกหุ้นค้าปลีกวัสดุก่อสร้างเด้งรับทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(28 พ.ย.68) ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกและวัสดุ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ณ เวลา 10:24 น. อยู่ที่ระดับ 6.65 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 3.10% ราคาสูงสุด 6.70 บาท ราคาต่ำสุด 6.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 14.61 ล้านบาท
บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ณ เวลา 10:28 น. อยู่ที่ระดับ 3.84 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 2.13% ราคาสูงสุด 3.90 บาท ราคาต่ำสุด 3.78 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 59.67 ล้านบาท
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ณ เวลา 10:33 น. อยู่ที่ระดับ 6.40 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 2.40% ราคาสูงสุด 6.40 บาท ราคาต่ำสุด 6.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 99.94 ล้านบาท
โดยวานนี้ (27 พ.ย.) ที่กระทรวงการคลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมบูรณาการการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ เพราะมีบริเวณกว้างมาก เขตอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ ต้องเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปพร้อมกับฟื้นฟู และเยียวยาผู้ประสบภัยบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ให้กลับสู่สภาวะปกติให้ดีที่สุด
ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดีอี และสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อบูรณาการยกระดับประสิทธิภาพ โดยล่าสุดมีการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงการคลังตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์ เป็นการบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง
พร้อมกันนี้ ได้จัดมาตรการเร่งด่วนที่สุดคือ จัดสรรงบประมาณจ่ายเงินเยียวยา 9,000 บาท/ครัวเรือน ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว และกระทรวงการคลังได้ขยายวงเงินทดรองราชการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถใช้จ่ายได้ทันที สูงสุด 100 ล้านบาท เพื่อดูแลปัจจัย 4 เช่น อาหาร น้ำ และยารักษาโรค
ด้านนายเอกนิติ กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้มีการตั้ง “ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์” เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ คลังได้ขยายวงเงินทดรองราชการให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด 100 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทันที และได้ออกหนังสือเวียนถึงแนวทางจัดซื้อจัดจ้างสามารถดำเนินการได้เลย โดยยืนยันว่าจะไม่เป็นอุปสรรคในการเบิกจ่ายเงิน เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันที ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ออกระเบียบรองรับให้หน่วยราชการสามารถดำเนินการได้
และมอบหมายให้นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการบูรณาการการปฏิบัติงาน ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดนำกรอบการช่วยเหลือผู้ประสบภัย 3 ระยะ คือ ช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู เร่งออกมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างเป็นระบบ ตามขอบเขตความรับผิดชอบอย่างเต็มกำลัง โดยมีศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการ และติดตามสถานการณ์จากส่วนกลางอย่างใกล้ชิด
โดย ระยะที่ 1 คือ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน อาทิ ตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของจำเป็น ณ อาคาร 150 ปีกระทรวงการคลัง เพื่อเป็นจุดรวมของบริจาคจากหน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ภายใต้กระทรวงการคลัง รวมทั้งรับบริจาคจากภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป โดยเน้นรับสิ่งของที่ผู้ประสบภัยต้องการจริง เช่น อาหารพร้อมรับประทาน น้ำ ยารักษาโรค เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ไฟฉายพร้อมถ่าน พาวเวอร์แบงค์ เป็นต้น,
กรมบัญชีกลางได้ออกแนวทางปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างช่วงเกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้ภาครัฐเร่งจัดการแก้ไขปัญหา และช่วยเหลือประชาชนได้ทันต่อสถานการณ์ด้วยแล้ว,
ให้กรมธนารักษ์ จัดหาพื้นที่ราชพัสดุ เพื่อใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวโดยเร่งด่วน พร้อมทั้งบริหารจัดการดูแลผู้ประสบอุทกภัยที่เข้ามาใช้พื้นที่ศูนย์พักพิง
ส่วนระยะที่ 2 เป็นการเยียวยาให้ผู้ประสบภัยกลับมาตั้งหลักได้อย่างรวดเร็ว คือ กระทรวงการคลังจะบูรณาการหน่วยงานในสังกัดทั้งหมด ในการออกมาตรการเยียวยาทั้งประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบหลังน้ำท่วมลดระดับอย่างครอบคลุม อาทิ การพักชำระหนี้, การลดดอกเบี้ย, การออกสินเชื่อพิเศษ ดอกเบี้ยต่ำ สำหรับผู้ได้รับผลกระทบ เช่น ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ร้านค้า, การมอบเงินเยียวยา,
การประสานให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เข้ามามีบทบาทในการเร่งระยะเวลาและดูแลการเคลมประกันภัย, การจัดตั้งศูนย์พักพิงสำหรับประชาชนที่ยังไม่สามารถอาศัยในที่พักของตนได้, การขอความร่วมมือจากรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องผ่านสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อช่วยในการฟื้นฟูกิจการและซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ซึ่งจะเป็นการบูรณาการความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ
และระยะที่ 3 การฟื้นฟูให้การดำเนินชีวิตและธุรกิจกลับมาได้ โดยคลังจะออกมาตรการฟื้นฟูที่จำเป็นสำหรับผู้ได้รับผลกระทบในภาพรวม โดยเน้นมาตรการที่เป็นประโยชน์ สามารถช่วยสนับสนุนผู้ได้รับผลกระทบให้สามารถฟื้นฟูอาชีพ และชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การออกสินเชื่อฟื้นฟู ซึ่งจะได้มีการพิจารณาออกมาตรการตามความเหมาะสม และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
นายเอกนิติ กล่าวว่า ได้มีการหารือกับสถาบันการเงินของรัฐ และสมาคมธนาคารไทย จะมีการออกแพ็กเกจในการพักหนี้พักดอกเบี้ย สำหรับครัวเรือนที่เดือดร้อน และมีสินเชื่อดอกเบี้ย 0% ที่เตรียมไว้ในการฟื้นฟูประชาชน พร้อมกับย้ำว่า ระบบที่ทำเงินต้องลงเร็วที่สุด
นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ยังมีที่ดินราชพัสดุ นายกฯ ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นศูนย์บัญชาการ ให้รองรับประชาชนที่ยังกลับที่พักไม่ได้ ซึ่งกรมธนารักษ์รายงานจากพื้นที่ว่า มีอาคารราชพัสดุ ประมาณ 5-6 แห่งเตรียมรองรับคนที่เดือดร้อน ส่วนกระทรวงพาณิชย์จะดูเรื่องสินค้าอุปโภค บริโภค ต้นทุนสินค้าถูก และสินค้าต้องไปถึงประชาชนอย่างรวดเร็ว
คปภ.สั่งเร่งจ่ายสินไหม
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า การเคลมประกันภัยน้ำท่วมภาคใต้ ในเรื่องประกันภัยรถยนต์แบ่งเป็น 3 ประเภท 1. รถยนต์สันดาป 2. รถยนต์ไฮบริด และ 3. รถยนต์อีวี แบ่งเป็น 5 ระดับความเสียหาย (a, b, c, d, f) ทั้งนี้ ในส่วนของรถยนต์ไฮบริด เนื่องจากแบตเตอรี่อยู่ด้านล่าง หากท่วมถึงพื้นรถ จะจ่ายบวกไปอีก 1 แสนบาท ส่วนรถยนต์อีวีมีแบตเตอรี่ที่แพง ราคาประมาณ 5 แสนบาท (ซ่อมไม่ได้) ถ้าท่วมถึงพื้นจ่ายเต็มทุนประกัน ซึ่งวันนี้ (28 พ.ย. 2568) ทาง คปภ.จะจัดประชุมผู้ประกอบการบริษัทประกันภัยอีกครั้ง และระบุรายละเอียดทั้งหมดเพื่อออกเป็นประกาศ คปภ.ต่อไป
“คปภ.ต้องเรียกประชุมบริษัทประกันภัยทันทีเพื่อให้สามารถระบุได้ว่าอีกกี่วัน จึงจะเริ่มจ่ายเคลมประกันภัยได้ มีการประชุมไปแล้วส่วนหนึ่งวันก่อน (26 พ.ย. 2568) และจะสรุปรายละเอียดวันนี้ (28 พ.ย. 2568) ประชาชนผู้ประสบภัยไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสารกรมธรรม์ที่หายลอยน้ำท่วมไป ทั้ง คปภ.และบริษัทประกันภัยต่างก็มีฐานข้อมูลกรมธรรม์ สามารถใช้บัตรประชาชนหรือเลขบัตรประชาชนมาดำเนินการได้ พร้อมส่งรูปถ่ายรถยนต์ที่เคลมประกันแก่บริษัทประกันภัยทางไลน์”
ล่าสุด คปภ.ได้รับรายงานว่ามีรถยนต์เสียหายจากอุทกภัยน้ำท่วมหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประมาณ 3,000 คัน ส่วนบ้านเรือนและสถานประกอบการน่าจะได้รับความเสียหายทั้งหมดในหาดใหญ่ ซึ่งยังไม่สามารถประเมินความเสียหายในส่วนของอาคารบ้านเรือนและสถานประกอบการได้ เพราะต้องใช้เวลาประเมินพอสมควร โดยเบื้องต้นน่าจะเคลมประกันภัยได้ 2-3 หมื่นบาทต่อราย
ทั้งนี้ ในช่วงประสบภัยน้ำท่วม คปภ.ได้หารือบริษัทประกันภัยและประกันชีวิตให้ผ่อนคลายการจ่ายเบี้ยประกันแก่ผู้ประสบอุทกภัย เพราะลูกค้าอาจหาเงินมาจ่ายไม่ทัน กำลังลงรายละเอียดว่าให้ผ่อนผันให้ 90 วัน (3 เดือน) หากมาต่ออายุใหม่จะไม่ถือว่าประกันภัยขาด การประกันสุขภาพก็ไม่ต้องตรวจโรคครั้งใหม่ ส่วนประกันภัยรถยนต์ที่ขาดภายใน 180 วัน ผ่อนผันจ่ายเบี้ยประกันภัยได้ เนื่องจากรถโดนน้ำท่วมขับไม่ได้อยู่แล้ว จึงเปิดทางให้ประกันภัยที่ขาดอายุเร่งดำเนินการให้เสร็จ ร่างประกาศเสร็จหมดแล้ว รอเคาะรายละเอียดวันนี้ (28 พ.ย. 2568) กับผู้ประกอบการบริษัทประกันภัย หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ออกประกาศให้มีผลบังคับตามวันที่ระบุไว้
ด้านนายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณที่ช่วยเหลือ ทางสำนักงบประมาณได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว และนายกฯ สั่งการมาแล้วว่า กรอบวงเงิน 9,000 บาท ก็พร้อมจ่ายให้กับประชาชนทันที
สำหรับกรอบวงเงินสำหรับการฟื้นฟูหลังน้ำลด ทางสำนักงบประมาณได้ประสานกับกระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทยตลอด เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุด สำนักงบฯ เตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว
ค้าปลีก-วัสดุรับผลบวก
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย และนักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อาจเป็นอุปสรรคกดดันยอดขายกลุ่มค้าปลีกในช่วงสั้น แต่จะส่งผลดีหลังน้ำลด จากการซ่อมแซมและเร่งฟื้นฟู โดยหุ้นกลุ่มค้าปลีก และวัสดุก่อสร้าง จะได้รับปัจจัยหนุนตรงนี้ อาทิ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL, บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO

