สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้
สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจประจำวันที่ 28 มี.ค.59
– ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.40 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 113.56 เยน/ดอลลาร์
– ส่วนเงินยูโรช่วงเย็นอยู่ที่ระดับ 1.1166 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1154/4455 ดอลลาร์/ยูโร
– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,389.01 ลดลง 5.77 จุด (-0.41%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 27,672 ล้านบาท
– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 328.27 ล้านบาท (SET+MAI)
– รมว.คลัง เล็งเสนอมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว-กินอาหารเข้าครม.พรุ่งนี้เพื่อให้ทันเทศกาลสงกรานต์
– พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) จะนำเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) เข้าที่ประชุมคณะรัฐมตรี (ครม.) วันพรุ่งนี้ (29 มี.ค.)
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ฝั่งตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี จะเลื่อนไปเสนอที่ประชุม ครม.ในวันอังคารหน้า (5 เม.ย.) เนื่องจากได้มีการปรับลดวงเงินลงทุนลง 2 พันล้านบาท เหลือ 9.2 หมื่นล้านบาท จากเดิม 9.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลังจาก ครม.อนุมัติก็คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ภายใน 3 เดือน หรือประมาณเดือน มิ.ย.59 เพื่อจัดทำร่างประกวดราคา และหาราคากลาง
– นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง และ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นข้อเสนอเรื่องรถไฟความเร็วสูงถึงรัฐบาลผ่านศูนย์บริการประชาชน ซึ่งหนังสือดังกล่าวได้รับการรับรองจากนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากมองว่าการที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจจะเดินหน้าลงทุนเองในรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพ-แก่งคอย-นครรราชสีมาทั้ง 100% แทนการร่วมลงทุนกับจีนนั้น เป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะแนวโน้มจะเกิดผลขาดทุนสูง ซึ่งจะเป็นภาระต่อเงินภาษีที่ต้องชดเชยการขาดทุนในอนาคต
– แหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า รัฐบาลและพรรครัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 5 ล้านล้านเยน (4.4 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นที่เดิมทีอ่อนแรงอยู่แล้วนั้นย่ำแย่ลงไปอีก ด้วยการยกระดับการใช้จ่าย เพื่อส่งเสริมสวัสดิการและกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน โดยนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ได้มีแผนจัดตั้งตัวอย่างการขับเคลื่อนการเติบโต และหวังว่าประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่รายอื่นจะปฏิบัติตาม
– นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตาดูการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ต่อสมาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐนิวยอร์กในวันพรุ่งนี้ เพื่อดูว่านางเยลเลน จะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ จากที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดออกมาแสดงความเห็นว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
– รายงานของสถาบันยุทธศาสตร์เศรษฐกิจแห่งชาติของจีน (NAES) คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะยังซบเซาต่อไปในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 และจะขยายตัวประมาณ 6.7% ก่อนจะเริ่มมีสเถียรภาพอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2/2559 ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะปรับตัวลดลงจากระดับ 6.8% ในไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากการผลิตและการลงทุนภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลง รวมถึงการบริโภคและการส่งออกที่ซบเซา
– นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน มี.ค.จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ชะลอตัวลงจากเดือน ก.พ.ที่พุ่งขึ้น 242,000 ตำแหน่ง ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 2 ครั้งในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 4 ครั้ง โดยการลดคาดการณ์จำนวนครั้งของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ บ่งชี้ว่าเฟดมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการขยายตัวที่อ่อนแอในต่างประเทศและตลาดการเงินที่ผันผวน
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

