เอกชน 14 ราย เรียงคิวซื้อซองประมูลก่อสร้างบ้านธนารักษ์ฯ

LPN-PS-SPALI พร้อมเอกชนเรียงคิวซื้อซองประมูลก่อสร้างบ้านธนารักษ์ฯ รอเปิดซองปลายมิ.ย.นี้


น.ส.อมรรัตน์ กล่ำพลบ ผู้อำนวยการสำนักที่ราชพัสดุ กรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ เปิดเผยว่าขณะนี้มีบริษัทเอกชน 14 ราย สนใจซื้อซองประมูลการก่อสร้างโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ สำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อย ในพื้นที่นำร่อง 6 แปลงทั่วประเทศแล้ว เช่น บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN, บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS และ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เป็นต้น

โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถสร้างที่อยู่อาศัยรวมทุกพื้นที่นำร่องได้ 4,000 ยูนิต ซึ่งในวันที่ 3 มิ.ย.59 กรมธนารักษ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ที่ดิน 6 แปลง ก่อนที่จะเปิดให้ยื่นซองประมูลภายในสิ้นเดือน มิ.ย.59 จากนั้นจะเปิดให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยลงทะเบียนจองที่อยู่อาศัยในโครงการที่ก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ 2 แปลง ได้แก่ ที่ราชพัสดุบริเวณวัดไผ่ตัน และที่ราชพัสดุบริเวณถนนประดิพัทธ์ ซึ่งจะเป็นการเช่าในระยะสั้น 5 ปี ส่วนพื้นที่เช่าระยะยาวในต่างจังหวัด 4 แปลงนั้น ต้องรอความพร้อมในการสรรหาผู้รับเหมาโครงการก่อนถึงจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างและเข้าอยู่อาศัยได้ภายใน 1 ปีครึ่งหลังจากได้ผู้รับเหมา

ทั้งนี้ แนวทางเบื้องต้นจะเปิดโอกาสให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยที่มีรายได้ต่ำกว่า 2 หมื่นบาท เช่าระยะสั้น 5 ปี ในอัตราเดือนละ 4,000 บาท ซึ่งหลังจาก 5 ปี จะเพิ่มอัตราเช่าอีก 15% และผู้เช่ารายเดิมจะต้องย้ายออกเพื่อให้สิทธิผู้เช่ารายใหม่ทันที โดยทั้ง 2 แปลงจะเป็นการก่อสร้างคอนโดมีเนียม เนื่องจากมีพื้นที่น้อยเมื่อเทียบกับความต้องการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ

ส่วนการก่อสร้างในพื้นที่ราชพัสดุอีก 4 แปลงในต่างจังหวัด ประกอบด้วย ที่ราชพัสดุใน จ.เชียงใหม่, เชียงราย และเพชรบุรี 2 แปลงนั้น จะเป็นการก่อสร้างเพื่อให้เช่าระยะยาว 30 ปี เช่ารายละไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งจะให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และสถาบันการเงินเป็นผู้ดำเนินการเรื่องสัญญาเช่าเอง โดยแต่ละแปลงจะมีการก่อสร้างทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการแต่ละรายจะเสนอแผนการก่อสร้างเข้ามา

ขณะทีการก่อสร้างบ้านเพื่อผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Complex) ในพื้นที่ราชพัสดุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจหาพื้นที่ราชพัสุดที่เหมาะสมกับการก่อสร้างที่อยู่อาศัยดังกล่าว เพราะต้องการให้เป็นการก่อสร้างบ้านเพื่อผู้สูงอายุแบบครบวงจร หรือเป็นบ้านเดี่ยวเพื่อให้ผู้สูงอายุอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม ซึ่งตั้งเป้าจะก่อสร้างให้ได้ภูมิภาคละ 1 แห่ง

โดยที่ผ่านมา กรมธนารักษ์ได้เสนอแผนให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่รับทราบแล้ว แต่จากตัวโครงการที่ยังไม่ชัดเจน จึงยังไม่มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ให้ความสนใจเข้ามาซื้อซองประมูล ดังนั้นจึงจะหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในการผ่อนปรนเงื่อนไงการให้เอกชนเข้ามาร่วมก่อสร้างโครงการ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วมากขึ้น

Back to top button